เมษายน 20, 2024, 04:23:14 ก่อนเที่ยง

ข่าว:

SMF - Just Installed!


ระนอง 16 ธค. ถึง 19 ธค. 62

เริ่มโดย Annop, ธันวาคม 17, 2019, 12:02:02 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

Annop


ระนอง 16 ธค. ถึง 19 ธค. 62

วันแรก 16 ธค. 62 กทม. ระนอง, ชมศูนย์วิจัยป่าชายเลน, วัดบ้านหงาว, ภูเขาหญ้า, บ่อน้ำร้อนพรรั้ง

คำแนะนำเกี่ยวกับการ Save รูป
รูปที่แสดงอยู่นี้ ถูกย่อขนาดลงเหลือความกว้างแค่ 800 Pixels เพื่อแสดงผลได้รวดเร็ว ไม่เปลือง Internet มากนัก
ถ้าท่านชอบรูปไหน อยากได้ภาพขนาดใหญ่ เพื่อนำไปอัดภาพ ขยายภาพ ทำได้โดย คลิก หรือแตะ ที่รูป
มันจะ Link ไปที่ Original Files เพื่อ Save ไปใช้งานได้ครับ

ได้ Boarding pass กันครบแล้ว ไปเที่ยวกัน



เริ่มยังไม่ได้ออกเดินทางก็ ช๊อปปิ้งกันก่อน ที่สนามบินนี่แหละ ซื้อกระเป๋า...



ถึงแล้วครับ สนามบินระนอง มากับ Airasia ครับ



นี่ครับรถประจำตำแหน่งเรา รถสองแถวไม้ครับ



รถสองแถวไม้ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดระนอง





นี่ครับ กำนันหมู เป็นไกด์ประจำกลุ่มเรา คอยให้ความรู้ และประวัติในแต่ละแห่งที่ไปเที่ยวกัน





ข้างหลังครับเป็นป่าชายเลน ใหญ่มากครับ ยืนกันหลายคนยังบังไม่มิดเลย





นี่ครับป่าชายเลนที่เดี๋ยวเราจะไปเดินเที่ยวกัน





ลงชื่อเข้าเยี่ยมกันก่อน



เมื่อกี้เราขึ้นไปจุดชมทิวทัศน์กันแล้ว คราวนี้เราจะลงชมป่าชายเลนกัน



เดินลงบันไดไปทางขวาครับ



ต้นนี้แหละครับเป็นต้นโกงกางใบเล็ก ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย



แล้วก็มาถึง แม่หอบ ที่จริงตอนนี้ยังไม่หอบ ต้องตอนกลับขึ้นมา ถึงจะหอบครับ...



แม่หอบ เป็นสัตว์ทะเลหายาก มีลักษณะคล้ายกุ้งกับปู ถ่ายรูปกับสัตว์โบราณกันหน่อยครับ



อยากรู้รายละเอียดก็เชิญอ่านได้ครับ



แล้วก็ถือไม้กันคนละอัน เอาไว้ทำอะไรรู้ไหมครับ เดี๋ยวกลับขึ้นมาแล้วจะเฉลย



เราจะเดินกันยาวเลยครับ









เดินชมป่าชายเลนนี่บรรยากาศร่มรื่น ไม่ร้อนมากครับ หรือผมไม่ร้อนอยู่คนเดียว...





ในพื่นที่สงวนชีวมณฑลนี้จะมีต้นโกงกางหลากหลายชนิดครับ นี่ก็เป็นต้นที่ไม่เหมือนใคร คือมาจากอเมริกาครับ



เหมือนไม่มีต้นไหนอยากอยู่ใกล้เลยนะครับ อาจคุยกันไม่รู้เรื่อง



ต้นอื่นเขาขึ้นกันหนาแน่น รากใหญ่นะครับ



นี่เป็นเรือนเพาะชำกล้าไม้ครับ



สุดทางแล้วครับ เค้ากั้นไว้ไม่ให้ไปเดินเล่นแล้ว ลงไปถ่ายรูปริมน้ำกันดีกว่า



















นี่ครับ กลับขึ้นมาข้างบนใกล้กับ แม่หอบ ที่ถ่ายรูปกันตอนลง จะมีลิงเฝ้าไม้ที่ถือกันไป พอกลับมาก็เอามาคืนที่นี่ครับ



เอาไม้ไปทำไม เค้าเฉลยว่าเอาไว้ป้องกันลิงมาจะมายุ่งกับเรา แต่มาเดินเที่ยวนี้ไม่มีลิงสักตัว เลยเอาไว้ใช้เป็นไม้เท้าซะเลย



ลิงที่เฝ้าไม้ตีลิงเป็นตัวผู้ด้วยนะ



ขึ้นรถครับ นั่งหน้าเลยครับ



แล้วก็มารับประทานอาหารกลางวันกัน เป็นร้านอาหารบ้านบ้านแถวนั้น มีอาหารพื้นเมืองระนองชื่อ ยาวเย ถ้าไม่เคยกินก็ควรลอง



อิ่มกันดีแล้วก็มาเที่ยว วัดบ้านหงาว



วัดนี้ก็สร้างมานานแล้วนะครับ แต่ยังดูใหม่อยู่เลย นี่ช่างก็กำลังทำน้ำพุด้านหน้าตรงทางขึ้นบันได



มองจากวัดก็เห็นน้ำตกหงาว อยู่ฝั่งตรงข้าม



เมื่อขึ้นไปแล้วก็จะมีบันไดก่อนขึ้นอุโบสถ มีสัญลักษณ์ ปูเจ้าฟ้าอยู่ตามบันได



รอบๆอุโบสถ ก็จะมีประวัติ ภูมิหลังบ้านหงาว ทำเป็นปูนป้้นเล่าเรื่องราวต่างๆ



จะเล่าเรื่องมาเรื่อยๆเช่น พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง ณ ระนอง) เป็นคนจีนต้นสกุล ณ ระนอง ดำรงความเป็นขุนนางในตำแหน่งอากร ในจังหวัดระนองในปี พ.ศ. 2387 เป็นต้น





ท่านกำนัน มัคคุเทศก์ประจำกลุ่มก็อธิบายประวัติความเป็นมาอย่างละเอียด แกจำแม่นนะ



ใครอยากอ่านประวัติวัดบ้านหงาวเชิญอ่านได้ครับ





ทางด้านซ้ายของวัด มีบันไดขึ้นจุดชมวิว ภูหงาวดาวดึงส์



เห็นบันไดก็ดูสวยแล้ว เราเลยไม่ได้ขึ้นกัน



ด้านล่างของอุโบสถ มีทางเข้าข้างในเป็นห้องโถงใช้สำหรับการประชุม จัดสัมมนา





ในห้องโถงใต้อุโบสถมีจุดแปลกอยู่คือที่นี่ มองตาเปล่าหรือมองผ่านกล้อง DSLR จะเห็นธรรมดา ไม่มีสีสันมากนัก แต่พอถ่ายรูปที่ออกมาก็ดูมี่สีสันสวยงาม



ถ้ามองผ่านกล้องมือถือจะเห็น ดูมีสีสันประกายความสวยงามขึ้นมาทันที คงจะเป็นไฟที่ใช้ตบแต่งสถานที่ แต่พอถ่ายออกมา ก็เหมือนๆกัน รูปนี้ถ่ายจากกล้องมือถือ



เที่ยวเสร็จแล้ว ถ่ายรูปกับรถประจำตำแหน่งหน่อย



ออกจากวัดก็มาแวะร้านของฝาก วันนี้มาซื้อของฝากตัวเองก่อน วันจะกลับค่อยมาซื้อฝากตัวเองและผู้อื่น ร้านวัชรี รถปรจำตำแหน่งเราจอดข้างหน้าเลยครับ





ได้ที่ร้านของฝากนี่แหละ



ออกจากร้านวัชรี ก็มาเที่ยวอีก ภูเขาหญ้า จุดท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัดระนอง









ดูให้มีชีวิตชีวาหน่อย...







แล้วก็มาถึง บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง



ถ่ายรูปกันหน่อย เดี๋ยวไม่รู้ว่าไปเที่ยวไหนมา







นี่ก็เย็นมากแล้วใกล้ปิดบริการแล้ว



นี่เป็นบ่อแบบตักอาบ





พอใกล้ปิดก็มีเจ้าหน้าที่มาทำการถ่ายน้ำทิ้งออกจากบ่อ บ่อที่นี่ก็ได้เปลี่ยนน้ำทุกวัน



ที่พักของเราวันนี้ และทุกๆวัน ไม่เปลี่ยนโรงแรมเลยครับ โรงแรมฟาร์มเฮ้าส์ ชื่อเหมือนขนมปังครับ





ติดต่อห้องกันไป เรามาดื่ม Welcome Drink ดีกว่า



ที่นี่แปลกนะครับ นอกจาก Welcome Drink ที่ข้างล่างแล้ว ในห้องยังมี Welcome EGG อีกด้วย



แล้วก็มีมุมกาแฟ



ที่หลับ ที่นอน ก็ดูดี พักผ่อน เก็บข้าวเก็บของ สักพักก็ออกมารับประทานอาหารเย็นกัน



ที่นี่ครับ ร้านครัวเจริญ



เมนูอาหารแนะนำ น่ากินทั้งนั้นเลย



นี่เป็นร้านเก่าแก่ของจังหวัดระนอง เดิมชื่อหวีเตี้ยง





อิ่มแล้วกลับไปนอนครับ วันนี้หลับสบายแน่



เห็นภายในรถนะครับ ดูใหญ่กว่าคันกลางวัน คุณสำรวยเจ้าของรถ แกมีรถหลายคัน เห็นพวกเราตัวใหญ่ เลยเปลี่ยนเอารถคันใหญ่มารับพวกเรา...



Annop


ระนอง 16 ธค. ถึง 19 ธค. 62

วันที่สอง 17 ธค. 62 ลองแพแลชายแดน, ก้อง วัลเลย์, พิพิธภัณฑ์เชิงประวัติศาสตร์, น้ำตกปุญญบาล

ตื่นเช้ามา ถ่ายรูปที่โรงแรมกันหน่อย เป็นที่ระลึก













รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม อาหารดีมาก หลากหลายชนิด สารพัดไข่ ขนมจีนหลากหลายแกง รวมทั้งซาวน้ำ อาหารพื้นเมือง ยาวเย ก็มี ดีนะอยู่ที่นี่ 3 วัน ไม่งั้นเลือกกินไม่ถูก



ระหว่างทาง ผ่านร้านซาลาเปา เจ้าดัง ร้านแรกในตลาดทับหลี แวะเสียหน่อย



ขายดีมากครับ ไปถึงเหลืออยู่ลูกเดียว



เช้านี้เที่ยวที่นี่ก่อนเลย ล่องแพ แลชายแดน อากาศไม่ร้อน แดดยามเช้าถ่ายรูปสวยนะครับ



ก่อนออกไปล่องแพ เรามาลองหุงข้าวตามวิถีชาวบ้านกันก่อน เดี๋ยวกลับมาได้กินกัน



การหุงข้าวที่นี่ เค้าเอาข้าวมาห่อด้วยใบยี่เล็ด แล้วใส่กระบอกไม้ไผ่ นำไปเผาคล้ายทำข้าวหลามครับ



มีผู้ทรงคุณวุฒิคอยแนะนำวิธีห่อข้าว เรียนกันแล้วก็ลงมือทดลองห่อข้าวกันเลย



จะห่อเล็กห่อใหญ่ก็ลองทำกันตามสบาย ของใครห่อไหนจำได้ไหม จะได้มากินถูก





ห่อกันเสร็จแล้วก็ยัดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่









กระบอกนี้ยังไม่เต็ม ใส่เข้าไปอีก



กระบอกนึงก็ใส่ได้หลายห่อ ค่อยๆเอาไม้กดลงไป



พอยัดห่อข้าว ใส่กระบอกได้พอสมควรก็ ใส่น้ำลงไป



แล้วอุดด้วยใบตาล หรือใบอะไรสักอย่าง



แล้วก็นำไปเผา เป็นอันเสร็จ วิธีหุงข้าวจากภูมิปัญญาชาวบ้าน





เห็นแพที่เราจะลงกันแล้ว มารวมหมู่กันสักหน่อยครับ







ค่อยๆลงดีดีนะ ไม่ต้องรีบร้อน รีบก็ไม่ไหวแล้ว เส้นสายมันยึด



ลงแล้วหันหน้าขึ้นมาหน่อย...แชะ...



แล้วก็เข้าประจำที่ เลือกนั่งกันตามสบายครับ กลุ่มเราคนไม่มาก มีตั้ง 2 แพ





มีเรือหางไปด้วยอีกลำคอยอำนวยความสะดวก และคอยช่วยเหลือเผื่อมีภัย





กลัวของเปียกก็ฝากไปกับเรือหางก็ได้ครับ



ชมวิวกันไปเรื่อยๆก็ชักอยากเล่นน้ำแล้วซิ แถวนี้ลงได้ เอาเลย...







นี่ครับ การ์ด ของเรา คอยดูแลความปลอดภัย เล่นน้ำกันได้สบายใจเลย





ตอนแรกก็ดู กล้ากล้า กลัวกลัว กันอยู่ สักพักลงกันหมดเลย ส่วนผมไม่ได้ลง ต้องคอยถ่ายรูปนี่แหละ











มัคคุเทศก์เราเก่งมา ไปดำจับกุ้งแม่น้ำมาให้ดู





ดำเล่นๆก็ได้มา 2-3 ตัวแล้ว



ที่เรามาล่องแพกันนี้เป็นแม่น้ำกระบุรี ฝั่งด้านซ้ายคือไทย ฝั่งขวาเป็นพม่า แม่น้ำตรงนี้ไม่ลึกนัก มีชาวบ้านเดินข้ามระหว่าง ไทย-พม่าได้ โน้นไง..เดินข้ามไปแล้ว





ไปแล้ว ลอยไปฝังพม่าแล้ว ท่าจะมันส์มาก









ลากกลับได้แล้ว ไปชมวิวต่อ









ถึงจุดแวะถ่ายรูปแล้วครับ



มี Soft Drink มีขนมกันทุกคน







จุดนี้เป็นจุดถ่ายรูปเลยครับ จะเห็นมีสายน้ำมาบรรจบกัน สวยงามครับ













เบื่องหลังการถ่ายทำ เต็มใจช่วยกันเหลือเกิน สาดเข้าไป สาดเข้าไป





Soft Drink ก็ยังไม่หมด



ขนมก็ยังเหลือ



ระหว่างทางกลับ มัคคุเทศก์เราช่วนฟังเพลง ร้องเพลงกัน บรรยากาศดี๊ดี



กลับมาดูผลงาน ข้าวที่เราช่วยกันหุงไว้ จะได้เรื่องหรือเปล่า





ก็ดูดีนะ ผมหมายถึงข้าวนะ





ดูกันใกล้ๆ ข้าวที่พวกเราช่วยกันห่อ ตอนนี้เสร็จพร้อมกินกันแล้ว



กุ้งแม่น้ำที่เราสั่งไว้ก็กำลังได้ที่ ตัวใหญ่ทีเดียว กำนันหมูก็ช่วยเผาด้วย



จัดที่จัดทางให้เรียบร้อย อาหารกลางวันของพวกเรา



แกะข้าวที่ห่อไว้มาลองกินดูซิ สุกดีละเปล่า... ถึงเวลากินแล้ว คงต้องงดถ่ายภาพสักพัก แหม...ถึงเวลาแกะกุ้งแล้ว...



เมื่ออิ่มกันดีแล้ว ก็ได้เวลากลับแล้ว มารวมหมู่กันหน่อย



กล่าวอำลา ยังจะมากันอีก ฟังว่าประมาณเดือนกุมภา ดอกจิกจะออกดอกมากมาย 2 ฟากฝั่งเลย บางส่วนก็ร่วงลงน้ำสวยงาม ใครว่าจะมาดูนะ...





ออกจากล่องแพ ก็มาเที่ยวต่อที่ ก้อง วัลเลย์



มีร้านอาหารด้วย แต่เราคงไม่กินแล้ว ยังอิ่มอยู่เลยครับ



พอจอดรถเสร็จก็มีไก่มาคอยต้อนรับด้วย





เดินมาหน่อยก็ถึง โรงคั่วกาแฟ





แล้วก็มาเจอคุณก้องที่นี่



คุณก้องได้ให้ความรู้เกี่ยวกับกาแฟเบื้องต้น ให้สามารถแยกแยะกาแฟคุณภาพดี กับกาแฟคุณภาพธรรมดาได้





ให้ทดลองคั่วกาแฟกันเองเลย





ระยะเวลาในการคั่วก็ทำให้รสชาติแตกต่างกัน ได้ลองชิมกันทุกคน รวมทั้งผู้ที่ดื่มกาแฟไม่ได้ มีอาการต่างๆนา ก็ไม่มีปัญหาอะไร นอนหลับได้สบายดี





ต่อจากก้อง วัลเลย์ ก็มาชมพิพธภัณฑ์เชิงประวัติศาสตร์ สงครามโลกครั้งที่ 2





ที่เห็นก็จะมีรถไฟเท่านั้น ส่วนซากเรือรบที่จมอยู่ในน้ำ อุโมงค์ใต้ดิน ก็ไม่สามารถเห็นได้





งานนี้เราจ้างนางแบบมาด้วย เพื่อให้ภาพถ่ายรถไฟสมบูรณ์ขึ้น







น้ำตกปุญญบาล อยู่ข้างทางนี่เอง แต่เวลาเริ่มหมดแล้ว เลยไม่ได้เดินเข้าไปชมบรรยากาศใกล้ๆ









Annop


ระนอง 16 ธค. ถึง 19 ธค. 62

วันที่สามที่ระนอง 18 ธค. 62 พระราชวังรัตนรังสรรค์, จวนเจ้าเมืองระนอง, บ้านร้อยปีเทียนสือ, บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน, อ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น, ระนองแคนย่อน, วัดวารีบรรพต, ล่องเรือไทม์แมชชีนระนอง

ตื่นแต่เช้า รับประทานอาหารที่โรงแรม แล้วมาถ่ายรูปกันก่อนออกเที่ยว













ที่แรกวันนี้ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นพระราชวังที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
สร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากรูปถ่าย และ พระราชหัตถเลขา ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในจดหมายเหตุทางราชการ ตัวพระราชวังที่ทำขึ้นมาใหม่ทำจากไม้สัก และ ไม้ตะเคียนทอง



บริเวณด้านหน้าพระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นสวนสาธารณะมีรูปปั้นคนงานทำเหมืองแร่ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์แร่ธาตุในสมัยนั้น







เรามากันเช้าไป ยังไม่เปิดให้ชม เจ้าหน้าที่ก็เพิ่งมา บอกว่ารอบแรกเปิดเวลา 9:10 น. เลยดูแต่รอบๆ แล้วไปเที่ยวที่อื่นต่อ



จวนเจ้าเมืองระนอง ท่านกำนันหมูคงกำลังมองหาท่าน โกศล ณ.ระนอง ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสาย ณ. ระนองเป็นรุ่นที่ 5 ท่านเป็นผู้ดูแลที่นี่





มาแล้วครับ ท่านให้การต้อนรับพวกเราอย่างดี



บรรยายความเป็นมาตั้งแต่ดั่งเดิม จนปัจจุบัน ท่านพูดคุยอย่างเป็นกันเอง สนุกสนานไม่น่าเบื่อเลย





บริเวณด้านนอกโดยรวม เมื่อก่อนตรงหน้าอาคาร มีร่องรอยของบันไดขึ้นชั้นบน เดี๋ยวนี้เหลืออยู่แค่นี้







ท่านได้นำของโบราณที่เก็บรักษาไว้อย่างดีมาให้เราชมด้วย เช่นอันนี้ จานมีรูด้วย มีไว้เพื่อใส่น้ำร้อน ช่วยให้อาหารในจานร้อนอยู่ได้นาน



ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับจานหน่อยครับ ท่านบอกว่าให้มีอายุยื่นเหมือนจานนี้เลย

















นี่กล้องสูบยาเส้น อย่างยาวเลย ท่านแสดงให้ดูว่ายังใช้งานได้



คุณครูพานักเรียนมาทัศนศึกษา สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เด็กๆมารอแล้ว พวกเราคงได้เวลากลับกันแล้ว



ดูแต่ละคนยังคุยกับท่านอย่างสนุกสนานอยู่เลย ก่อนกลับถ่ายรูปหมู่กับท่าน โกศล ณ.ระนอง เป็นที่ระลึกว่าได้มาเยี่ยมเยือน



ต้นยางพารา ต้นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย อยู่ที่นี่ครับ





แล้วก็มา บ้านร้อยปีเทียนสือ



เจ้าของบ้านออกมาต้อนรับเองเลย บรรยายความเป็นมาของบ้าน





แนะนำจุดถ่ายรูป ลองถ่ายให้ดู เพื่อจะได้ไม่พลาดในการเก็บสิ่งสำคัญ มุมที่สวยงามของบ้าน



วันนี้ท่านมีแขกมาเยี่ยมเยอะ ต้องไปต้อนรับคณะอื่นอีก







แต่ละจุดสำคัญของบ้าน มีแสดงรูปตัวอย่างการถ่ายรูปไว้ด้วย เดี๋ยวจะพลาดจุดถ่ายรูป มุมสวยๆ



ที่นี่เด็กก็มารอชมเหมือนกัน คนละคณะกับที่จวนผู้ว่า









จากบ้านเทียนสือ ก็มาเที่ยวต่อที่ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน



ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว ก็มีบริการราคาไม่แพง ดำเนินการโดย Tinidee (ที่นี่ดี)





ส่วนถ้าแค่แช่เท้า ก็มีบริการฟรี มีอยู่หลายบ่อ





มีจุดให้ประชาชนนำภาชนะมาใส่น้ำกลับบ้านได้ด้วย





ที่นี่มีลานสุขภาพ พวกกลัวเปียกไม่อยากแช่น้ำ ก็มานอนที่ลานสุขภาพได้ พื้นจะร้อน แรกๆจะรู้สึกร้อนมาก แล้วจะค่อยๆสบายตัว







แล้วก็มาดูอ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น











มาเลี้ยงปลากันที่ ระนองแคนย่อน













แกรนแคนย่อน ระนอง เป็นที่เมื่อก่อนเคยทำเหมืองแร่ เดี๋ยวนี้เป็นที่ท่องเที่ยวครับ



ชมวิวแบบพาโนราม่ากันครับ



รับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านข้าวหอม ระนอง



เจ้าของร้านเอาปลาอินทรีย์มาโชว์ อร่อยครับร้านนี้ เจ้าของร้านใจดี



ก่อนไปเที่ยวล่องเรือ พวกเราได้มา สักการบูชาพระครูประภัสรวิริยคุณ หรือหลวงพ่อด่วน ถามวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดวารีบรรพต หรือวัดบางนอน





หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่นี้ หล่อด้วยเนื้อโลหะศักดิ์สิทธิ์จากช่อชนวนพิธีดวงจักรพรรดิ ที่หลวงพ่อด่วนสร้างและปลุกเสกไว้เมื่อปี 2538 ทำพิธีเททองหล่อเมื่อวันที่ 9 พ.ค.2560



และก็ถึงเวลาล่องเรือ พวกเราได้มาพบกับคณะของ คุณมยุรี และ คุณอมร ที่มาร่วมทริปล่องเรือด้วยกัน



นี่ครับมัคคุเทศก์ ของทริป ล่องเรือไทม์แมชชีนระนอง



มาร่วมถ่ายรูปหมู่กันก่อนออกล่องเรือ



ลำนี้แหละครับ ที่จะไปล่องเรือเที่ยวกัน



ทยอยกันลงมาแล้วครับ เรือลอยลำรออยู่แล้ว



แล้วก็เริ่มแต่งตัว ถ่ายรูปกัน











สวย หล่อ กันทุกคนเลยครับ









































ชมสาวสวย หนุ่มหล่อ แล้วก็ชมวิวสวยๆ สองฟากฝั่งด้วย สลับกันไปนะครับ















เหยียวแดง บินหากินกันอยู่หลายตัว เป็นนกประจำถิ่นแถวนี้ครับ





แต่งตัวงามๆ ชมวิวสวยๆ ถ่ายรูปกันไป แล้วยังมีเพลงคอยกล่อมบรรเลงให้ฟังอีกด้วย



















ฟังอย่างเดียว ไม่สะใจ ช่วยเค้าร้องด้วยเลย























นั้นๆ...มีรุ้งกินน้ำด้วย







และก็ถึงเวลา รับประทานอาหารเย็นบนเรือแล้วครับ





กลับถึงฝั่งก็ประมาณ 2 ทุ่ม กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็ชักดึกแล้ว เหนื่อยและสนุกสนานกันมากแล้ววันนี้ พวกเราเลยขอยกเลิกห้อง Karaoke ที่จองไว้ ก็ได้ร้องกันบนเรือแล้ว..

Annop


ระนอง 16 ธค. ถึง 19 ธค. 62

วันที่สี่วันกลับ 19 ธค. 62 ธาริน ฮอทสปริง, โรตีนิสรา, ร้านวัชรี, กมม.

วันนี้เที่ยวกันวันสุดท้ายของทริปนี้ เอาแบบพักผ่อน เริ่มด้วยไปอาบน้ำร้อนกันที่ ธาริน ฮอทสปริง



อันนี้ทดสอบถ่ายย้อนแสง นี่กล้อง DSLR ที่ใช้อยู่



ลองใช้กล้องมือถือถ่ายดูบ้าง ดูก็สูสีกัน ต้องยอมรับว่ากล้องมือถือเดี๋ยวนี้ไม่ธรรมดาเลย





มีแจ้งให้ทราบด้วยว่าวันนี้ อุณหภูมิน้ำร้อนเท่าไหร่



ชมบรรยากาศภายในสำหรับผู้ใช้บริการ ส่งตากล้องสาวเข้าไปเก็บภาพ



มีข้อปฎิบัติ การใช้บ่อน้ำพุร้อนด้วย อ่านกันก่อน



ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็มีแยก ชาย-หญิง



พร้อมแล้ว ลงน้ำกันดีกว่า







ดูเอาละกัน นอกจากได้แช่น้ำพุร้อนเพื่อสุขภาพแล้ว ยังดูสนุกสนานกันเต็มที่



แข่น้ำกันชื่นใจแล้วก็ไปกินโรตีที่ โรตีนิสรา



แล้วก็มาซื้อของฝาก ที่มาดูไว้ตั้งแต่วันแรก ร้านวัชรี



ก่อนไปขึ้นเครื่องกลับ กทม. ก็บังเอิญเจอกันอีก เพิ่งร่ำลากันเมื่ออาหารเช้านี่เอง



กลับถึง กทม. ถึงบ้านกันโดยสวัสดิภาพ รับความสนุกกันไปถ้วนหน้า พบกันใหม่ทริปหนัาครับ

โปรแกรม เที่ยวท่องล่องระนอง 4 วัน 3 คืน โปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนบ้างตามความเหมาะสม