พฤศจิกายน 24, 2024, 05:11:15 ก่อนเที่ยง

ข่าว:

SMF - Just Installed!


เที่ยว Spain 30 เมย - 13 พค 59

เริ่มโดย Annop, พฤษภาคม 01, 2016, 12:00:26 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

Annop

วันที่ 30 เมย. 59 Madrid (มาดริด),Thyssen Bornemisza Museum, Plaza Mayor

เริ่มวันแรกที่ Madrid นี่ที่พักเรา









มากันทั้งหมด 8 คน มีผู้ที่เลิกทำงานแล้วเอาแต่เที่ยวเสีย 6 คน รวมคนถ่ายภาพด้วย ทางขวา 2 คนเป็นไกด์ทัวร์กิตติมศักดิ์ เราสั่งมาเองเป็นพิเศษ



เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ก็มาถึง Plaza de Cibeles



ที่นี่เรามีไกด์ทัวร์ด้วย 2 คน แต่จะพาทัวร์แค่ Barcelona ต่อจากนั้น หัวหน้าทัวร์รับไป



Fuente de Cibeles หรือน้ำพุซิเบเลส (Plaza de Cibeles) ตอนนี้น้ำไม่พุ สงสัยภัยแล้ง

















ถึงแล้ว Thyssen Bornemisza Museum









ที่นี่มีภาพแบบลึกซึ้งซึ่งเราดูไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ส่วนนึง พวกที่เอาสีมาละเลงหนะ ตาไม่ถึงจริงๆ
ชมภาพตัวอย่าง ที่พอดูรู้เรื่อง บางภาพมีชื่อหรือบรรยายอยู่ใต้ภาพ


รูปนี้วาดได้ละเอียดมาก


รูปนี้น่าจะดูรู้เรื่อง แต่ก็แปลกๆ


Armchair






Portrait of Giovanna Tornabuoni












The Last Supper


View of the Canal Grande with Santa Maria della Salute


Venus and Mars


Diana Bathing - The Fountain

รถถีบสามัคคี





ต้องช่วยกันปั่นนะ ที่สำคัญเห็นมีเบียร์กินด้วย







Puerta de Alcalá หรือประตูอัลกาลา











หัวหน้าทัวร์ชวนมาเที่ยวสวนสาธารณะ Parque del Buen Retiro หรือเรียกสั้นๆว่า Retiro









สระน้ำ บรรยากาศดี มีคนมาพายเรือเล่นมากอยู่ และมีอนุสาวรีย์ของพระเจ้าอัลฟอนโซ่ที่ 12 (Alfonso XII)





















ไกด์ทัวร์ของเราพามุดอุโมงค์ ไปขึ้นรถใต้ดิน



จากสถานี Retiro สถานีที่คนไม่ได้ทำงานแล้วทั้งหลาย



ไปที่สถานี Sol (Vodafone Sol) มาดูรูปปั้นหมีกินผลต้นมาโดรนโย่ (Oso y el Madroño) สัญลักษณ์ของมาดริดคือหมี
(แอตเลติโกมาดริด จึงมีฉายาว่า ทีมตราหมี)



นี่ร้านไอสครีม เข้าแถวยาวเลย มีสมาชิกไปลองกิน เห็นว่าไม่ค่อยเท่าไหร่ อาจไม่ถูกปากเรา



มีโชว์ต่อสู้แรงโน้มถ่วงทำนองนี้หลายเจ้าเหมือนกัน





ร้านชูโรส หรือปาท่องโก๋สเปน ร้านแรกที่เจอ ลุยเลย ร้านนี้ยังไม่ใช่ร้านที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งตั้งใจว่าจะไปกิน ก็อร่อยนะ



แล้วก็มาถึง Plaza Mayor เค้าทำฟองสบู่ลูกโตๆ พอดีมันแตกแล้ว





















อันนี้กังหันสเปน เค้าไม่ขาย



ท่านหัวหน้าทัวร์เข้าไปซื้อไวน์





รูปที่นักวาดนั่งบังอยู่ดูสวยดีมาก



ท่าจะต้องหาร้านกินอาหารเย็นแถวนี้แล้ว บรรยากาศดี









สงสัย เพิ่งหากันเจอ



เอาร้านนี้แหละ ตอนแรกนั่งข้างนอกชมบรรยากาศ



พอชมบรรยากาศได้ที่แล้วก็เข้ามากินในร้านดีกว่า ข้างนอกหนาวมาก



ลองสั่งอาหารขึ้นชื่อของสเปน เช่น แคบหมูทอด, มะกอกดอง, พริกทอด, ปลาเล็กปลาน้อยทอด, ปลาหมีกทอด แล้วก็ข้าวผัดสเปน ต้องลองชิม





ตลาด Mercado de San Miguel หรือตลาดซานมิเกล



ที่นี่เขายืนกินกันนะ







ร้านขายถั่ว รู้สึกพวกเราชอบกินถั่วกัน









ข้าวผัดสเปน ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ



พักวันแรกที่โรงแรม Aparto-Hotel Rosales

Annop

วันที่ 1 พค. 59 Toledo (โตเลโด), Claustro de San Juan de los Reyes,Santa Iglesia Catedral Primada de Toledo

วันที่ 2 ของการท่องเที่ยว ถึงแล้ว Toledo



รถไฟที่เรานั่งมา





ภายในสถานีรถไฟ





โรงแรมนี้อยู่ใกล้สถานีรถไฟ สวยดี แต่เรากลับไปพัก Madrid



นั่งรถเมล์เข้าเมือง ไม่ไกลนัก แต่มันเป็นทางขึ้นเขา



ร้านนี้ขนมมีชื่อเสียง



ชมเมืองไปเรื่อยๆ ที่จะไปวันนี้ปิดหลายแห่ง











มีร้าน McDonald ด้วย









มีบันไดเลื่อนบริการด้วย แหม..เวลาเดินขึ้นมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ















พิมพ์เหรียญที่ระลึก ค่าทำ 1 ยูโร ต้องใส่เหรียญเข้าไป 2 อัน 1 ยูโร กับ .20 ยูโร



หมุนเลือกแบบที่ชอบก่อน



ใส่เหรียญแล้วหมุนต่อ



เดินไปเรื่อยๆก็เห็นโบสถ์ ไม่มีผ้าบังน่าจะสวยกว่านี้ เค้าคงอยากให้ไปถ่ายใกล้ๆ



ร้านขาหมู (Jamones อ่านว่า ฆามอง) เป็นขาหมูผ่านขบวนการให้เก็บไว้ได้นาน รสออกเค็มๆ



Jamón (ฆามอง) เป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อมากๆของสเปน คนไทยอาจจะคุ้นกับชื่อ "พาร์ม่าแฮม (Parma Ham)" มากกว่า
ซึ่งจริงๆมันก็คล้ายๆกัน แต่พาร์มาแฮมจะเป็นของฝั่งอิตาลี ที่สเปนจะเรียกว่า Jamón
ซึ่งมันก็คือขาหมูที่ผ่านการหมักเกลือทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ยิ่งหมักไว้นานเท่าไหร่ ยิ่งอร่อย ยิ่งแพง
เวลากิน จะกินดิบๆ โดยแล่ออกมาเป็นแผ่นบางๆ กินแกล้มกับเบียร์เย็นๆฉ่ำๆ
Jamón จำแนกออกได้หลายชนิด ตามสายพันธุ์ของหมูที่นำมาทำ ระยะเวลาในการหมัก และแหล่งผลิต
Jamón ชนิดที่มีราคาแพงที่สุด คือ Jamón Ibérico ซึ่งใช้หมูสายพันธุ์ Ibérico มาทำ รสชาติของ Jamón จะออกเค็มๆ มันนิดๆ

















ดูดีดี มีคนปีนเขาด้วย







กินอาหารกลางวันกันที่ร้านนี้ คราวนี้ได้นั่งข้างนอกชมบรรยากาศได้ ไม่หนาวมาก



รู้จัก Meatball ก็ที่ร้านนี้แหละ ก็เหมือนลูกชิ้นเนื้อ ลูกใหญ่หน่อย อร่อยสำหรับคนชอบเนื้อ



ที่นี่ค่าเข้าชม 2.50 ยูโร ไม่ค่อยมีอะไรมาก













มาดูที่นี่ดีกว่า Claustro de San Juan de los Reyes



อันนี้ก็ค่าเข้าชม 2.50 ยูโร มีอะไรให้ดูมากกว่ากันเยอะเลย น่าคุ้มค่ากว่า



มีสวนอยู่ตรงกลาง ส้มออกลูกสวยเชียว









ขึ้นไปด้านบนมีตาข่ายกันนกด้วย และจะเห็นที่น้ำทิ้ง มีแบบต่างๆมาก ไม่เหมือนกันเลย



ทางเดิน และหลังคา





ที่น้ำทิ้ง แบบต่างๆ









ประทับใจ ต้องลงสมุดเยี่ยมเสียหน่อย





สาวเม็กซิกันมาดื่มกินกัน







ถึงแล้ว Santa Iglesia Catedral Primada de Toledo



ต้องเข้าคิวยาวเลย ของเราเกือบถึงแล้ว เสียค่าเข้าขมคนละ 8 ยูโร



ดูสิ แถวยาวดีไหม























กลับมาสถานีรถไฟแล้ว เตรียมเดินทางกลับ Madrid







วันนี้ไกด์กิตติมศักดิ์เราเสร็จงานแล้ว ....



กลับถึง Madrid พักที่เดิมโรงแรม Aparto-Hotel Rosales

Annop

วันที่ 2 พค. 59 Madrid, Palacio Real De Madrid,เดินทางไป Bilbao (บิลเบา)

เริ่มเช้าที่ 3 ยังอยู่ Madrid วันนี้ถ่ายน้อย ในพระราชวังเค้าห้ามถ่าย
ขึ้นรถใต้ดินมาโผล่ที่ Opera







เดินเที่ยวไปเรื่อยๆ จะไปเที่ยว Palacio Real De Madrid วันนี้จะเข้าพระราชวัง













ถึงแล้ว แต่ด้องมาเข้าคิวซื้อตั๋ว คนละ 10 ยูโร ก่อน พวกเรามารอกันแต่เช้า





สักพักแถวเรื่มยาว ดีนะพวกเราอยู่ต้นๆ



เข้ามาแล้ว ชมภายนอกพระราชวังละกัน ถ่ายได้แต่ข้างนอก











ในวังห้ามนำเป้เข้าไป ต้องมาฝากตู้ หยอดเหรียญ 1 ยูโร



นั่งตากแดด กินข้าว กินเบียร์ กินไวน์ กัน



ดูผู้คนมากมาย วันนี้ต้องรีบไป Bilbao วันหนัาค่อยมาดู ทำไมคนเยอะ



ดูสัมภาระ ระหว่างรอขึ้นรถไฟไป Bilbao



ถึง Bilbao เดินหาโรงแรมกันเล็กน้อย ป้ายมันเล็กอยู่ด้านบนมองดีๆก็เห็น โรงแรม AliciaZzz Bed And Breakfast Bilbao

Annop

วันที่ 3 พค. 59 Bilbao (บิลเบา), Bilbao San Nicolas Church, Hop-On Hop-Off

วันที่ 4 ของการท่องเที่ยวแล้ว เดินออกจากโรงแรม มีจัตตุรัสเล็กๆคล้าย Plaza Mayor



ร้านนี้สีสวย สีตัดกับร้านอื่นๆ



ข้างล่างเป็นทางไปสถานีรถไฟใต้ดิน ข้างบนเป็น arkeologi Museoa



ว่าจะเข้า Museoa เช้าไปยังปิดอยู่ ไปเดินเล่นชมเมืองก่อน





มักเห็นมีน้ำบริการอยู่ทั่วไป



ร้านนี้โดนเราอุดหนุนแล้ว





นี่ก็ที่กินน้ำอีก อันนี้ 4 แฉกเลย มีคนมาทำความสะอาดด้วย เขารอให้เราถ่ายจนเสร็จ เข้าไปทำความสะอาด แล้วถ่ายรูปส่งงานด้วย



เดินชมวิวไปเรื่อยๆ เกือบหลงเลย แต่ก็วนๆอยู่แถวนั้นแหละ









เดินไปเดินมาก็มาเจอโบสถ์นี้ เดี๋ยวก็มาเที่ยว San Nicolas Church



นี่เป็นอะไรไม่รู้ เหมือนเป็นสะพานข้ามไปอีกฝั่ง แต่ไม่น่าเป็นรถวิ่งนะ มันเป็นแท่งๆขึ้นไป





โบสถ์เมื่อกี้แหละ



นี่ก็อีกโบสถ์นึง



Museum ที่จะมาดูวันนี้ปิด เลยมาลองดู arkeologi MUSEOA



เสียงส่วนใหญ่บอกไม่ค่อยน่าสนใจ ไปช๊อปปิ้งดีกว่า













รถรางที่สถานีรถราง Ribera





มีตลาดขายของสดอยู่ฝั่งตรงข้าม (Mercado de la Ribera) เป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ไม่รู้จริงหรือเปล่า





ภายในตลาด ดูสะอาดดี





ออกจากตลาดสด ก็เดินชมวิวไปเรื่อยๆ



เค้าอุตส่าห์ต่อบ้านเสียสวย



เอาไว้ตากผ้า



เห็นว่าเป็นโรงหนังนะ



สถานีรถไฟที่มาเมื่อคืน Bilbao Abando







โบสถ์ที่เห็นตอนเช้า ที่ว่าจะมาเที่ยว San Nicolas Church



ที่นี่นั่งตากแดดก็ไม่ร้อน





เข้ามาแล้ว มึดหน่อย ไม่ได้ใช้แฟลช ต้องมือนิ่งหน่อย



ดูเหมือนงานไม้แกะสลักประดับด้วยตุ๊กตา สวย...









ออกมาก็เที่ยวต่อ



หัวหน้าทัวร์ พาไปขึ้นรถ Hop-On Hop-Off เที่ยว





รอรถ Hop-On Hop-Off ที่ป้ายนี้แหละ



ขึ้นรถชมวิว ช่วงนี้ถ่ายจากบนรถ









ด้านหลังของตลาดสด ถ่ายจากบนรถ Hop-On Hop-Off





รถผ่านบริเวณด้านหลังของ Guggenhelm Bilbao Museoa เดี๋ยวเราจะไปลงที่นั้น





รถผ่านใต้สะพาน มีรูปประดับติดผนังด้วยสวยดี



สะพานแขวนให้คนเดิน ทำสวยแปลกตาดีมาก ที่สเปนคนเดินมากนะ ตากแดดก็เดิน เมืองไทยไม่มีทางเดินได้...ร้อน ร้อน แล้วก็ร้อน...



มาลงที่แมวนี่แหละ...ไม่ใช่แมว...เป็นหมาหนะ Guggenhelm Bilbao Museoa ไม่ได้เข้าไปดูข้างใน แค่เที่ยวรอบๆ







มีรถมาโชว์ด้วย







เล่นกับแมงมุม



นี่ก็รูปติดผนังเมื่อกี้แหละ



พักที่เดิมโรงแรม AliciaZzz Bed And Breakfast Bilbao

Annop

วันที่ 4 พค. 59 Bilbao (บิลเบา), Euskal Museao, Barcelona (บาร์เซโลนา)

นับไปนับมาก็ 5 วันแล้ว ยังติดใจ Euskal Museao ที่เมื่อวานปิด ค่าเข้าชมคนละ 1.5 ยูโร























นี่บ้านช่างเหล็ก







ยังดูไม่หมดเลย ขาดไปอีกชั้นนึง แต่ด้วยเวลาจำกัด ต้องรีบบินไป Barcelona



ออกมาขึ้น Hop-On Hop-Off เที่ยวอีก แวะลงที่สวนดอกไม้ และหาอะไรกินหน่อย















กินที่นี่แหละ ใกล้ที่จอดรถ Hop-On Hop-Off



ร้านนี้ มีบรรยากาศตากแดดกินด้วย สั่งง่ายแค่เดินไปหยิบๆที่ทำไว้แล้วได้เลย อร่อยดี



มารอรถบัสไป Airport ประมาณคนละ 1.50 ยูโร ไปเที่ยว Barcelona ต่อ



มีป้ายบอกว่ารถจะมาในอีก 16 นาที อันนี้ถ้าจะถ่ายไม่ให้ตัวหนังสือขาด ต้องความเร็ว Shutter ช้าๆ ความเร็ว 30 น่าจะได้





ถึง Barcelona เข้าพักที่โรงแรม Sunotel Junior

Annop

วันที่ 5 พค. 59 Barcelona (บาร์เซโลนา), Ciutadella Park, Santa Maria Del Mar, Catedral de Barcelona, สิ่งก่อสร้างที่ Antoni Gaudi ออกแบบ, Sagrada Familia

เริ่มเช้าที่ 6 ของการท่องเที่ยว วันนี้อยู่ Barcelona บินมาจาก Bilbao เมื่อคืน
โผล่ขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินสถานนีนี้แหละ เช้านี้ไปเที่ยวสวนสาธารณะ



สวนสาธารณะนี้เรียกว่า Parc de la Ciutadella (Ciutadella Park)
เริ่มที่ Arc de Triomf Parc de la Ciutadella Barcelona Spain เอาชื่อเต็มไปก่อนจะได้เข้าใจ
ส่วนหน้า Arc de Triomf เป็นชื่อประตู ส่วนหลังเป็นชื่อสวนสาธารณะ บาร์เซโลน่า สเปน



Arch de Triomf ประตูนี้ไม่เกี่ยวกับสงครามแต่สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่เมือง Barcelona เป็นเจ้าภาพงานงาน World Fair ปี 1888
เพื่อเป็นสัญลักษณฺของเมืองศิลปะเป็นแบบแขกมัวน์ที่เคยปกครองสเปนมาก่อน



ถ่ายกันอย่างถึงอกถึงใจกันเลย













จากประตูก็เดินชมวิวมาเรื่อยๆ





Castell Dels Tres Dragons ไม่ได้เข้าไปเที่ยว





มีประติมากรรมแปลกๆในสวน ไม่รู้หมายความว่าอะไร



ส่วนอันนี้เป็นประติมากรรมที่ดูง่ายกว่ามาก...



ที่นี่มีน้ำพุ (La Cascada Parc de la Ciutadella) คงเพราะภัยแล้ง ไม่เปิดน้ำพุอีกตามเคย



รถเทียมม้า 4 ตัว (La Quadriga de l'Aurora La Cascada)







ไกด์ทัวร์เราพามาขึ้นรถเมล์ ไปเที่ยวโบสถ์ซันตามาเรียเดลมาร์



Santa Maria Del Mar (โบสถ์ซันตามาเรียเดลมาร์) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกตั้งอยู่ในแขวงริเบอราของเมืองบาร์เซโลนา
ซันตามาเรียเดลมาร์เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1329 ถึงปี ค.ศ. 1383
ระหว่างยุคอันรุ่งเรืองทางการเดินเรือและการค้าทางทะเลของคาทาโลเนีย สถาปัตยกรรมเป็นแบบอันเป็นเอกลักษณ์
ของสถาปัตยกรรมกอธิคแบบคาตาลันที่แสดงความกลมกลืนอันเห็นได้ยากในสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ของยุคกลาง











ออกมาจากโบสถ์เห็นต้นไม้ไม่มีใบ ฤดูใบไม้ร่วงหรือไง หนาวจัง













ก็ได้มาถึง Catedral de Barcelona หรือชื่อเต็มๆคือ Catedral de la Santa Cruz y Santa Eulalia
Catedral de Santa Eulalia เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิค สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 13-15
แต่ส่วนด้านหน้าของมหาวิหารหรือ Façade สร้างเสร็จในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 นี้เอง





ออกมาชมตรงกลางนอกห้อง มีลานปลูกต้นปาล์ม มีสระน้ำ บ่อน้ำมนต์ .....



โบสถ์ส่วนใหญ่มักจะต้องดูความสวยงามของเพดานด้านบน แต่ที่นี่ต้องดูพื้นด้วย



มีเลี้ยงเป็ดด้วย เค้าเรียกเป็ดหรือเปล่าเนี้ย...





ถึงเวลานัดหมายก็ออกมาข้างนอก มีดนตรีเล่นให้ฟัง ท่านหัวหน้าทัวร์ช๊อบชอบ



ได้เวลาไปเที่ยวต่อ ไปหาสถานีรถใต้ดินกัน



ระหว่างทางก็โดนให้ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ





ถึงสถานีรถใต้ดินแล้ว







โผล่ขึ้นมาก็มาดูตึกรูปร่างแปลกๆ อันนี้ Casa Milà ผู้เป็นสถาปนิกคือ Antoni Gaudi (อันตอนี เกาดี)



อันตอนี เกาดี อี กูร์เนต เป็นสถาปนิกชาวคาตาลัน เขาเป็นศิลปินแนว อาร์ตนูโว (Art Nouveau) คือเป็นการพัฒนาปรับปรุงมาจาก
พื้นฐานของสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-กอทิก (neo-gothic) จนมีลักษณะโดดเด่นเป็นของตัวเอง
ลักษณะงานของเขาจะใช้รูปทรง เส้นโค้ง และลบเหลี่ยมต่างๆ ออกไป ทำให้งานที่ออกมามีลักษณะแปลกตาโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์





กินก่อน ร้านอาหารไทย ที่ในร้านไม่มีคนไทยเลย มีแต่พวกเราไทยแท้ แม้สูงวัย



อิ่มหน่ำสำราญกันแล้วก็มาดูตึกต่อ เรียงมาเลย ตั้งแต่ซ้ายสุด Casa Lleó Morera, Casa Amatller, Casa Batlló
ตึกรูปร่างแปลกๆพวกนี้ก็ Gaudi เป็นผู้ออกแบบ



ตึกนี้อยู่หัวมุม Casa Lleó Morera



ตึก Metropolis อยู่หัวมุมถนน Gran Vía กับ ถนน Alcalá Street



อันนี้ตึก Plaça de Catalunya







นี่ด้านหน้า



นี่ก็ด้านหน้า





ตากแดดก็ร้อน อยู่ในร่มก็หนาว ไม่รู้จะอยู่ที่ไหนดี ไปเที่ยวต่อดีกว่า



Basílica de Santa Maria del Pi





ได้ชื่อนี้เพราะมีต้น Pi (Pine Tree) อยู่ข้างหน้า ลักษณะเหมือนต้นสนนะ



เดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ตามถนนดัง La Rambla ถนนนี้เริ่มตั้งแต่ตึก Plaça de Catalunya ยาวไปจนถึงอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
มีสถานที่สำคัญหลายแห่ง มีนักท่องเที่ยวมากมายมาเดินบนถนนแห่งนี้ นี่ก็มาถึง Teatre Del Liceu เป็นโรงหนังนะ







เดินต่อดีกว่า ไม่ได้มาดูหนัง



แวะไปเที่ยว Palau Güell สักหน่อย



เข้าแถวซื้อตั๋ว



Palau Güell อันนี้ก็ Antoni Gaudi เป็นคนออกแบบอีกแล้ว เดี๋ยวมีอีก เมืองนี้มาชม Gaudi กันเลย



แต่เราไม่ได้ซื้อตั๋ว เลยดูข้างนอกละกัน





มีรถม้า วิ่งผ่านเราไป





มีผู้โดยสารด้วย



มาถึงแล้ว อนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา







ท่านบอกว่าให้ไปทางโน้นแหนะ



และก็มาถึง Sagrada Familia (ซากราดาฟามีเลีย) โบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ท่านสถาปนิก อันตอนี เกาดี เป็นคนออกแบบอีกเช่นกัน







ที่นี่อยากเข้านะ แต่ตั๋วเต็มแล้ว เค้าบอกว่าจองออนไลน์ถูกกว่า เลยต้องกลับไปตั้งหลักใหม่ ชมข้างนอกไปก่อน







ใครอยากจองไปที่นี่ครับ http://www.sagradafamilia.org/en/tickets/ คนละ 15 ยูโร



แอบนำภาพบันไดวนเป็นวงกลมเหมือนก้นหอยมาให้ชม ว่าจะเข้าไปถ่ายบ้าง...อดเลย...



ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=maystyle&month=10-2012&group=2 เข้าไปดูรายละเอียดได้ครับ

ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว กินเสียเลยก่อนกลับโรงแรม



เห็นผู้ชายผัดอยู่จานเดียว ต่อไปหมวยสเปน ทำเองหมดคนเดียว ทั้งผัด ทั้งจัด คิดเงิน รับสั่งอาหาร ....



พักที่เดิมโรงแรม Sunotel Junior

Annop

วันที่ 6 พค. 59 Barcelona, Sagrada Familia (ต่อ), Park Güell (ปาร์ค กูเอล), Valencia (บาเลนเซีย)

เราเที่ยวกันมา 7 วัน ครบ 1 อาทิตย์แล้ว เดินวันละ หมื่น-สองหมื่นกว่าก้าว ทุกวัน แข็งแรงกันดีมาก ไปเที่ยวต่อครับ
เมื่อวานยังค้างคาที่ Sagrada Familia โบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ไปลองจองออนไลน์ดูแล้ว ได้รอบเย็นซึ่งไม่ทันแล้ว ต้องเดินทางต่อไป บาเลนเซีย
เอาหละ...อยากเข้าไปชมมาก ลองมาซื้อตั๋วหน้างานก็เอา แพงกว่าจองออนไลน์ก็สู้



และก็ไม่ได้อีก มีรอบที่เราเข้าไม่ทันแล้ว ตามที่ดูมาใน blog ที่ให้ดูเมื่อวานยังซื้อตั๋วหน้างานได้เลย
ถ้าจะมาควรเตรียมจองออนไลน์ให้พร้อม ก็ดูรอบๆไป เมื่อวานยังไม่ได้ดูด้านอื่น



สร้างกันนานมาก ลองดูส่วนที่สร้างก่อน เก่าแก่ และส่วนที่สร้างใหม่ เห็นต่างกันชัดเจน









พอสร้างเสร็จ ต่อไปอีก 100 ปีก็เก่าเหมือนกันหมดแหละ





วันนี้ฝนตกพอสมควร เลยต้องปลอมเป็นแอ๊ดหน่อย ทั้งหนาว ทั้งฝน





ระหว่างรอรถไฟไปสวนสาธารณะ Park Güell







ถึงแล้ว Park Güell (ปาร์ค กูเอล บางคนอ่านว่า ปาร์กเกวย์) เป็นสวนสาธารณะที่เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของสถาปนิกอันตอนี เกาดี
ภายในสวนนั้นถูกตกแต่งไปด้วยงานปฎิมากรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่ประดับตกแต่งลวดลายด้วย เครื่องกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้น
มีตึกอาคารรูปทรงแปลกๆที่สร้างขึ้นให้ผสมผสานไปกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ซึ่งเป็นที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก

ปัจจุบันปาร์ค กูเอล เป็นส่วนหนึ่งของผลงานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 2005
สวนสาธารณะแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1900 - 1914 โดยในช่วงแรกๆนั้นสวนยังคงเป็นส่วนบุคคล แต่ต่อมาในปี 1922
จึงกลายมาเป็นที่สาธารณะ และได้กลายมาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีวคามสำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโลนา

ค่าเข้าชม ถ้าแค่ Monumental Zone ราคา 7 ยูโร
ถ้าเข้าชม Monumental Zone และ Guided visit ด้วยก็ 14 ยูโร
มากกว่า 10 มีตั๋วกรุ๊ป แต่ดูจองยุ่งยากกว่านิดหน่อย
ต้องจองออนไลน์อีกแล้ว รอบที่มีก็ไม่ทันอีกเพราะต้องเดินทางต่อ ใครสนใจไปจองที่นี่ http://www.parkguell.cat/en/
ส่วนเราเข้าฟรี ก็ดีนะ มีเวลาไม่มาก ส่วนที่ให้ชมฟรีก็มีมากแล้ว





ไกด์ทัวร์กิตติมศักดิ์ของเราก็พามาเที่ยวที่นี่เป็นที่สุดท้ายของทริปนี้แล้ว จะปลีกวิเวกไปเที่ยว Madrid ต่อ
จากนี้กรุ๊ปเราก็จะเป็น สว. เต็มขั้น ท่านหัวหน้าทัวร์ก็รับช่วงเป็นไกด์ต่อไปด้วย ขอบคุณมาก ไกด์ทัวร์กิตติมศักดิ์ของเรา





ส่วนที่เราไม่ได้เข้าไป แต่ถ่ายรูปข้างนอกได้



จากการที่ได้เดินรอบๆโบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็เลยมีถุงบาร์เซโลน่าติดไม้ดิดมือกันพอสังเขป





มีดนตรีเล่นให้ฟังอยู่บ้าง วณิพก





วิวดีนะ หามุมถ่ายรูปกันดีกว่า









ตอนนี้ฝนไม่ตก แต่ลมแรงหัวกระเซิงเลย ไม่ไหว พรุ่งนี้ต้องใส่เสื้อบาร์เซโลน่าแล้ว















มาชมการแสดง และร่วมสมทบทุนให้เขาบ้าง





ร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก





กลับมาหาอะไรกินใกล้โรงแรม ที่หัวหน้าทัวร์แอบมากินวันก่อน



รถไฟจาก Barcelona ไป Valencia (บาเลนเซีย) ท่านหัวหน้าทัวร์จองได้แจ๋วมาก ดูหรู สบายที่สุด



วิ่งด้วยความเร็ว ตอนสูงสุดอยู่ที่ 198 KM/H ตอนที่ถ่ายแค่ 111 KM/H ก็ตอนนั้นมันเร็ว ถ่ายไม่ทัน



สบายนะท่านหัวหน้า....



ออกจาก Barcelona เดินทางสู่ Valencia (บาเลนเซีย)  เข้าพักที่โรงแรม Expo Hotel

Annop

วันที่ 7 พค. 59 Valencia (บาเลนเซีย), Catedral de Santa María de Valencia, Torres de Serranos

เริ่มเช้าที่ 8 แล้ว เมื่อคืนเรามาถึงค่ำแล้ว โผล่ขึ้นมาจากรถใต้ดินทางลิฟต์ แหม...กระเป๋ามันหนักนะ



แต่โรงแรมนี้จองได้ดีมาก พอโผล่ขึ้นมามองไปอีกฟากก็เห็นแล้ว Expo Hotel แค่เดินข้ามถนน



แล้วที่จอดรถ Hop-on Hop-off ก็อยู่ข้างโรงแรมนี่แหละ วันนี้ขึ้นรถเที่ยวสักวัน



นี่ไง ห้างเซ็นทรัล อ้าว..ไม่ใช่บ้านเรา เป็นตลาดกลางของบาเลนเซีย (Mercat Central) ว่าจะมาเที่ยว ถ่ายจากบนรถ







Banco de Valencia ก็คือ ธนาคารแห่งบาเลนเซีย แหละ แถวนี้มีตึกสวยๆมากมาย





นี่ก็ Catedral de Santa María de Valencia ที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปดู



มาลงที่ป้ายนี้เที่ยวก่อน เป็นจุดเปลี่ยนรถไป Ruta A สีแดง กับ Ruta B สีเขียว



เดินสักพักก็เจอร้านดังเข้าให้แล้ว



เที่ยวก่อน เดี๋ยวกลับมากินแน่ Horchateria de Santa Catalina ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.horchateriasantacatalina.com/



เที่ยวโบสถ์ก่อน Santa Catalina Church and Tower (Església de Santa Caterina)





ร้านก็อยู่ข้างหน้าหอระฆังโบสถ์ พอออกมาจากโบสถ์ก็เข้าร้านได้เลย มาแล้ว เจอแล้ว ปล่อยผ่านไปไม่ได้หรอก





ที่นี่มีชื่อเสียงก็เครื่องดื่มที่เรียกว่า Horchata (หรือ Orxata) ดูคล้ายๆน้ำเต้าหู้
บางคนบอกว่ามันคือ Tigernut milk แล้วก็ของโปรดของพวกเรา ชูโรส (ชูโรสร้านนี้ก็ยังไม่ใช่ร้านที่ตามหา)



อิ่มแล้ว ที่จริงก็ยังไม่หิวมาก แต่ต้องกินให้ได้เลยกินได้น้อยไปหน่อย ออกมาเที่ยวโบสถ์อีกโบสถ์นึง



Catedral de Santa María de Valencia หรือมักเรียกว่า Catedral de Valencia



















ระหว่างยืนรอรวมพลบริเวณหน้าโบสถ์ เห็นเค้านั่งตากแดดกัน น่าไปน้่งรอบ้าง...อ้าว...ออกมากันหมดแล้ว



ไม่รู้เดินออกมาด้านหน้าหรือด้านหลังกันแน่



ที่ลานช้างหน้ามีน้ำพุด้วย เอ...หยั่งงี้เรียกว่าน้ำพุหรือเปล่า



ลานหน้าโบสถ์นี่น่าจะเป็นด้านหน้านะ



อันนี้มีน้ำ มาถ่ายรูปกันเถอะ







อยากกินไอศครีม ซื้อเลย



ได้แล้ว อร่อย...



เดินไปเที่ยว หอคอยตอร์เรส เด เซอรานอซ



หอคอยตอร์เรส เด เซอรานอซ (Torres de Serranos) เป็นหนึ่งในสิบสองประตูของกำแพงเมืองโบราณเมืองบาเลนเซีย
ปัจจุบันเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และยังถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองที่ดีที่สุด
ของเมืองบาเลนเซียอีกด้วย แต่พวกเราไม่มีใครขึ้นไป เห็นบันไดแล้ว ดูรอบๆดีกว่า



ด้านนี้เป็นด้านหลังนะ น่าจะด้านในเมือง



ท่านหัวหน้า เข้าหาตำรวจอีกแล้ว ไปหาร้านอาหารกลางวันกับตำรวจนี่แหละ



เดินหาร้านอาหารกลางวันที่แนะนำก็ถ่ายวิวไปเรื่อยๆ





รัปประทานอาหารกลางวันเสร็จก็ว่าจะไปเที่ยวตลาดที่เมื่อเช้าเห็นบนรถ มันปิดประตูใส่หน้าเลย (ไม่ถึงขนาดนั้น) มันบอกว่าปิดแล้ว



ขึ้นรถต่อมาลงที่ City of Arts and Sciences (Ciudad de las Artes y las Ciencias)

ดูตรงกลีบด้านบน ไม่รู้มันอยู่ได้ยังไง น่าจะหนักมาก ไม่มีเสาค้ำยันไว้เลย โชว์ต่อสู้แรงโน้มถ่วง









ข้างในเป็นสวน





ดูมุมนี้อีกมุม ไม่เห็นเสาเลย







มีคนมาพายเรือเล่น แหม...เรือเค้าใสแจ๋วดีจัง



นี่ก็ด้านหน้า หอคอยตอร์เรส เด เซอรานอซ ที่ไปมาแล้ว อันนี้ถ่ายจากบนรถขากลับแล้ว



ถึงโรงแรมแล้ว Hop-on Hop-off ก็มาส่งถึงข้างโรงแรมเลย ยังพักที่เดิม Expo Hotel ที่นี่หาของกินง่าย มีที่ช๊อปปิ่งอยู่ข้างๆ

Annop

วันที่ 8 พค. 59 Valencia, Palacio del Marqués de Dos Aguas, Sevilla (เซบียา)

9 วันในสเปน เช้านี้จะขึ้นรถไฟใต้ดินไปเดิน เดิน แล้วก็เดิน



กะว่าจะเดินเที่ยวสัก 2-3 แห่ง ที่เห็นบนรถเมื่อวาน



แต่สู้ไม่ไหว ฝนตก ไปเที่ยวในร่มดีกว่า Palacio del Marqués de Dos Aguas เป็นพิพิธภัณฑ์เซรามิก



ผมเห็นเหมือนมีค่าใช้จ่ายเข้าชมนะ แต่วันที่ไป ฟรีครับ ไม่เสียเงิน
ถ้ามีกระเป๋าเป้ ที่สะพายหลัง เค้าให้เอาไปฝากที่ตู้หยอดเหรียญ คงกลัวหมุนไปหมุนมาไปโดนเซรามิกเค้าแตก





















ช่างวางมาก เห็นหน้าเห็นหลังเลย



ไม้ท่อนใหญ่ๆ สวยๆ ทำที่ห้อยโชว์ไว้ข้างบน



ห้องครัว จัดไว้ได้สวยมาก













สาวๆเค้าไปเดินพรมแดงกัน





ชมภายนอกบ้างนะ ข้างนอกก็ประดับด้วยเซรามิก สวยครับ





เห็นตึกนี้ เข้าไปเลยครับ ไม่ผิดหวัง



ที่นี่ประทับใจมาก เป็นที่หลบฝน มีอะไรสวยๆงามๆให้ดูมากมาย ถ่ายรูปได้ ที่สำคัญฟรี
รวมทั้งตู้ฝากเป้ที่หยอดเหรียญ พอไปไขเอาเป้ก่อนกลับมันก็คืนเหรียญให้ด้วย ฟรีจริงๆที่นี่



ร้านนี้แหละ อยู่ใกล้โรงแรม ในส่วนพลาซ่าด้านล่าง มากินกันหลายรอบ อาหารถูก และอร่อย ถ้าพัก Expo Hotel หละก็แนะนำเลย





ออกจาก Valencia ด้วยรถไฟจากสถานี Valencia Joaquin Sorolla เดินทางสู่ Sevilla (เซบียา)
ที่สถานี Sevilla-Santa Justa พักที่โรงแรม The Boutike Hostel

Annop

วันที่ 9 พค. 59 Sevilla (เซบียา), Alhambra Palace of Granada, ตลาดอาหรับ, Sevilla

เรามาเที่ยวกันก็ 10 ว้นแล้ว วันนี้นั่งรถไฟออกจาก Sevilla จากสถานีที่มาเมื่อคืน ออกแต่เช้า ไปเที่ยวเมือง Granada ชมพระราชวัง อาลัมบรา
ซื้อทัวร์มาแล้วจากเมืองไทย กรุ๊ฟ 6 คน ราคาเป็นเงินไทยเฉลี่ยคนละ 2,848.29 บาท เขาให้มารอที่จุดนัดพบ ที่นี่







พักกินกาแฟเสร็จก็เริ่มเลย มีไกด์นําเที่ยวด้วย งานนี้หรูเลย

ในประเทศสเปนตอนใต้มีพระราชวังและป้อมปราการตั้งอยู่ที่เมืองกรานาดาในแคว้นอันดาลูเซีย
ทางภาคใต้ของประเทศสเปน สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1248-1354 โดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์
พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์แห่งราชวงศ์นาสริด ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน
คำว่า "อาลัมบรา" มาจากคำในภาษาอาหรับว่า "อัลค็อมรอ"  แปลว่า "(สิ่งที่มี) สีแดง"
เนื่องจากตัวป้อมปราการนั้นก่อสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง





นี่ไงไกด์นําเที่ยวของกลุ่มเรา มีประโยชน์มาก ไม่งั้นเที่ยวไม่ถูก จะขาดอรรถรสในการเที่ยวไปเยอะเลย



พระราชวังแห่งนี้มีลักษณะเป็นป้อมด้วย ภายในประดับประดาหรูหราแบบ สถาปัตยกรรมของพวกแขกมัวร์
สร้างในระหว่างคริสเตียนที่ 14 หลังจากคริสเตียนได้ยึด คอร์ โดบาและตีสเปนกลับคืน
พวกอาหรับถอยไปยึดเมืองกรานาดาเป็นเมืองหลวงและสร้าง ปราสาทราชวังแบบอาหรับ
ที่คิดว่าควรจะสร้างขึ้น ภายในเวลาไม่ถึงร้อยปีก็หมดอำนาจ พ่ายแพ้ แก่กองทัพของพระเจ้าเฟอร์ดินันด์
และพระราชินีอิซาเบลลา ผู้โด่งดังของสเปน การรบขั้นแตกหัก กระทำในปี ค.ศ. 1492 อาหรับพ่ายแพ้เด็ดขาด

Alcazar ป้อมปราการ









แม้ว่าความงามอันเป็นเอกบางส่วนถูกทอดทิ้งและบางอย่างถูกทำลาย โดยพระราชโองการ
ของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5 เพื่อเอาศิลปะแบบอิตาลีเข้าไปเสริมแทรกไว้ก็ตาม
แต่ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่ ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ชาวโลกอย่างมาก







Nasrid Palace





















เป็นภาษาโบราณ แปลว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว

















เขตพระราชวังประกอบขึ้นด้วยส่วนที่เป็นป้อมปราการ มีกำแพงและหอรบสร้างด้วยหินสีแดง
ทำให้ได้ชื่อในภาษาอาหรับว่า "กาลัตอัลฮามบรา" ซึ่งแปลว่า ป้อมแดง
ภายในกำแพงเป็นเชิงเทิน และตัว พระราชวังอัลคาซาร์ ซึ่งประกอบด้วยหน้าพระลาน
ท้องพระโรง เมื่อผ่านประตูแห่งความยุติธรรมจะถึงลานมาลี และลานสิงห์อันมีชื่อเสียง
บริเวณรอบ ๆ เป็นสนามกว้างใหญ่มีหินอ่อนแกะสลักประดับไว้อย่างสวยงาม
ถึง 124 แผ่น มีน้ำพุตรงกลางที่ฐานน้ำพุมีสิงโตหินอ่อนหมอบอยู่ 12 ตัว














ช่องหน้าต่างนี้มองขึ้นไปเห็นกระจกสี ไกด์บอกว่ามีอันเดียวที่เหลืออยู่ นอกนั้นแตกหมดแล้ว













ออกมาชมภายนอกวังบ้าง มีสถานที่ต่างๆ และสวนสวยๆให้ชม ลองตามมาดูครับ







Carlos V Palace เป็นของกษัตริย์คริสต์สร้างตามหลัง









โรงแรมนะครับ เห็นไหมโรงแรมอะไร HOTEL AMERICA ครับ



อ่านเห็นไหมครับ PARADOR DE TURISMO SAN FRANCISCO





ดีนะ ฝนไม่ตกแรง พอเดินเที่ยวได้



นี่เป็นระบบน้ำประปา เป็นทางน้ำไหลผ่านข้ามถนนเลย ก็มีระบบการจัดการเกี่ยวกับน้ำที่ดี
มีการทำคูคลองส่งน้ำจากด้านล่างขึ้นมายังพระราชวังเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค
ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาด้านการชลประทานของชาวมัวร์ได้เป็นอย่างดี



เท่าที่ดูที่นี่ใช้น้ำมากทีเดียว







Generalife เป็นวังฤดูร้อน





































หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งแท็กซี่ไปเที่ยวตลาดอาหรับ
ถึงแล้วครับ ตลาดอาหรับ ดูเอาเองนะ มีอะไรบ้างที่ช่างภาพสนใจถ่ายมา











ร้านนี้ถูกพวกเราโจมตี มีพวกผลไม้แช่อิ่ม และถั่วต่างๆ ก็อร่อยดีครับ









ออกจากตลาดอาหรับ เที่ยวชมวิวไปเรื่อยๆ













เที่ยวเสร็จนั่งรถไฟกลับไป Sevilla พักที่เดิม The Boutike Hostel

Annop

วันที่ 10 พค. 59 เที่ยว Sevilla (เซบียา) ดัวย Hop-on Hop-off, Madrid

เรามาเที่ยวกัน 11 วันแล้ว ไม่รู้เลยนะว่ามาหน้าฝน

วันนี้ฝนตก ไหลลงที่หน้าต่าง ....

ไปขึ้น Hop-on Hop-off ฝนตก ไหลลงที่หน้าต่างรถ ไม่สามารถนำกล้องขึ้นมาถ่ายได้ ดูอย่างเดี๋ยวละกัน
บ่ายว่าจะไปขึ้น Hop ต่อ ฝนก็ยังคงหยุดบ้าง ตกบ้าง ไปซ๊อปปิ่งดีกว่า ถ่ายรูปไม่ค่อยได้ เอาแค่นี้ละกัน

ย้ายฐานเข้า Madrid มารอรถไฟ ดูสัมภาระที่ต้องลากกันเวลาเปลี่ยนโรงแรม อันนี้โรงแรมสุดท้ายแล้ว



รถไฟขบวนนี้เร็วมาก ที่เห็นก็ 250 Km/h แต่มีถึง 270 Km/h ถึงก่อนเวลา 15 นาที



พักที่โรงแรม Clement Barajas โรงแรมนี้มีรถรับส่ง Airport

Annop

วันที่ 11 พค. 59 Madrid, Las Rozas Village, Chocolateria San Gines

วันนี้เราก็เที่ยวกันมาครบโหลวันแล้ว ต้องมาหาที่ช๊อปปิ่งกันบ้าง Las Rozas Village เป็น Outlet ที่มีซื้อเสียงของ Madrid
กว่าจะไปถึงที่จอดรถ ที่จะพาเราไป ก็หากันอยู่พักนึง ใครจะไปรู้ว่าอยู่ใต้วัง มาหาอาหารเช้ากินกันก่อน



นี่ใช้หรือเปล่า ทางลงไปขึ้นรถ ดูป้ายหน่อยสิ



หัวหน้าทัวร์มายืนยัน ลงไปเลย ทางนี้แหละ



ไม่ต้องซื้อตั๋ว ไปซื้อบนรถ





ระหว่างนั้งรอรถ



ขึ้นไป จ่ายเงินคนละ 16 ยูโร เป็นค่ารถ ไป-กลับ สบายๆ



ถึงแล้ว รถออก 11:00 น. แล้วจองเที่ยวกลับไว้เลย 17:00 น.



นี่รถที่พาเรามา และพากลับด้วย ใช้เวลาเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ตั้ง 16 ยูโร



ชมบรรยากาศภายใน Outlet











ช๊อปปิ้งกันตามอัธยาศัย



ใส่เสื้อบาร์เซโลน่า มาท้าทายหน้า เรอัลมาดริด







ร้านนี้เคยไปกินเมื่อวาน ที่อื่นนะ ไม่ใช่ที่นี่ ไอศครีมอร่อยมาก ช็อกโกแลตร้อนก็เข้มข้นที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา



กลับจาก Outlet เวลาเหลือมากมาย มาเดินเล่นต่อที่ถนนคนเดิน แต่ก็ฝนตกเป็นอุปสรรคเล็กน้อย
และนี่ก็เป็นร้านที่ตามหา ร้าน Chocolateria San Gines มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1894 เก่าแก่ที่สุดใน Madrid
ตามไปดูรายละเอียดที่ https://chocolateriasangines.com/





นัดแนะกันให้ดี พรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้...



กลับไปพักผ่อน ที่เดิมโรงแรม Clement Barajas

Annop

วันที่ 12 พค. 59 Madrid, Catedral de la Almudena, Museo del Prado

วันที่ 13 ของการท่องเที่ยว เก็บตกตั้งแต่ร้าน Chocolateria San Gines ที่ไปดูมาเมื่อวาน
อย่างที่เห็นนี่แหละเรียกว่า ขูโรส (Churros) บางคนเรียก ปาท่องโก๋สเปน จุ่มกับช็อกโกแลตกิน มันเกิดมาคู่กัน







อิ่มหน่ำสำราญแล้วก็ออกมาดูคนเข้าแถวเข้าไปกินบ้าง







อันนี้แหละ Catedral de la Almudena ค่าเข้าฟรี บริจาค 1 ยูโร



































ถึงแล้ว Museo del Prado



เข้าแถวซื้อตั๋ว





ถึงคิวจ่ายเงินแล้ว ค่าเข้าชม 14 ยูโร ข้างในห้ามถ่ายภาพ เลยไม่มีภาพให้ชม



ออกมาเจอร้านที่ทางข้ามถนน มีตุ๊กตาประดับอยู่ข้างบน สวยดี







พักที่เดิมโรงแรม Clement Barajas

Annop

วันที่ 13 พค. 59 กลับประเทศไทย

เที่ยวกันมาวันนี้ก็ 14 วันเข้าไปแล้ว ถึงเวลากลับบ้านเราแล้ว
ก่อนกลับก็ไปอำลา Spain กันที่ VIP Lounge ก็สนุกและอิ่มกันไปก่อนขึ้นเครื่อง













เดินทางถึง กทม. วันที่ 14 พค 59 เช้าเลย นักบินขับซิ่ง ถึง 6:30 น. สบายๆกันทุกคน

Annop


สรุป ค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว Spain 30 เมย - 13 พค 59

ค่าใช้จ่ายที่จ่ายก่อนเดินทางเป็นเงินบาท


ค่าทำ VISA
3,331.00 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน ETIHAD (เอทิฮัด)
29,400.00 บาท
ค่าประกันการเดินทาง
1,300.00 บาท
ค่ารถไฟ ไปกลับ Madrid-Toledo
836.54 บาท
ค่ารถไฟ Madrid-Bilbao
792.39 บาท
ค่ารถไฟ Barcelona-Valencia
1,089.46 บาท
ค่ารถไฟ Valencia-Seville
2,901.03 บาท
ค่ารถไฟ ไปกลับ Seville-Granada
1,957.34 บาท
ค่ารถไฟ Seville-Madrid
1,831.91 บาท
ค่ารถ Hop-On Hop-Off ที่ Bilbao
581.67 บาท
ค่ารถ Hop-On Hop-Off ที่ Valencia
706.03 บาท
ค่ารถ Hop-On Hop-Off ที่ Seville
747.61 บาท
ค่าเครื่องบิน Bilbao-Barcelona
2,908.43 บาท
ค่า Alhambra Tour เฉลี่ยคนละ
2,848.29 บาท
ค่า Exchange Rate เฉลี่ยคนละ
99.28 บาท
รวมที่จ่ายกันไปแล้ว เป็นเงินบาท
51,330.98 บาท

ค่าใช้จ่ายที่ Spain เป็นเงินยูโร
ค่าโรงแรม

Aparto-Hotel Rosales 2 คืน
74 ยูโร
AliciaZzz Bed And Breakfast Bilbao 2 คืน
60 ยูโร
Sunotel Junior 2 คืน
79 ยูโร
Expo Hotel Valencia 2 คืน
56 ยูโร
The Boutike Hostel 2 คืน
61 ยูโร
Clement Barajas 3 คืน
101 ยูโร
รวมค่าโรงแรม
431 ยูโร

ค่าใช้จ่ายรวมที่เก็บเข้ากองกลาง

ค่าใช้จ่ายที่เก็บเข้ากองกลาง
310 ยูโร
เหรัญญิกคืนเงินคนละ
10 ยูโร
รวมค่าใช้จ่ายของกองกลางคนละ     
300 ยูโร
รวมรายจ่าย เป็นเงินยูโร
731 ยูโร
รวมรายจ่าย แปลงเป็นเงินบาท
29,240.00 บาท
รวมค่าใข้จ่ายทั้งหมดเป็นเงิน
80,570.98 บาท

หมายเหตุ ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับ 40 บาท

ยังมีต่อหน้า 2 นะครับ
การซื้อ Prepaid SIM เพื่อใช้เครื่อข่าย Internet ใน Spain
http://itamusing.com/smf/index.php?topic=172.15