พฤศจิกายน 22, 2024, 02:46:34 ก่อนเที่ยง

ข่าว:

SMF - Just Installed!


วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ

เริ่มโดย Sompong, พฤศจิกายน 10, 2021, 07:55:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

Sompong

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่1

ผมหาเรื่องทำ ตอนกักตัวโควิดนี่แหละ เลยขุดเอาภาพเก่าๆมาทำ หนัง แล้วเขียนเล่าเรื่องประกอบ กะว่าถ้าลูกมันไม่เลี้ยงจะไปเขียนหนังสือขาย หาเลี้ยงชีพสองคนตายาย 5555 ลองอ่านดูนะว่าพอมีอนาคตไหม?

2016 SPAIN
วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว....ตอน..."ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่1"....เมื่อปี 2016 ผมกับเพื่อนๆ ได้หาทำเรื่องจะเที่ยว จะไปไหนกันดี เรามีเวลาสองสัปดาห์ และแล้วความคิดก็หยุดลงมับ หนึบหนับ หนึบหนับ ที่นี่แหละประเทศ "สเปน" .....ตอนแรกว่าจะรวมปอร์ตุเกส เข้าไปด้วย แต่มันไม่มีรถไฟวิ่งจากปอร์ตุเกส มา แมดริด ต้องใช้รถบัส ดูว่าจะยุ่ง แล้วเรามีเวลาแค่ สองสัปดาห์ เลยเจาะสเปนให้ปรุซะเลยก็แล้วกัน การที่จะท่องเที่ยวแบบไม่ง้อทัวร์ ต้องรู้จักว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ที่ไหนดี???? ก็เริ่มจากกำหนดเส้นทาง จากนั้นมาหาว่าแต่ละเมืองที่จะไป จะเดินทางด้วยพาหนะอะไร จะพักที่ละกี่คืน มีที่เที่ยวที่น่าสนใจตรงไหนบ้าง จะจองห้องพักที่ไหนบ้าง และแล้วเส้นทางที่ทัวร์ไม่จัดก็ผุดขึ้นมา แน่นอน มันต้องตะลุยเมืองหลวง ทะลวง เมืองเอก ก็เริ่มบินเข้าที่แมดริด แล้วแวะไปเมืองเก่าแก่ใกล้ๆ ชื่อToledo จากนั้นขึ้นเหนือไปชมเมือง Bilbao แล้วจะต่อไปทางตะวันออกคือเมือง Barcelona เป็นเมืองชายทะเล ถ้าว่าไปมันอยู่ทางตะวันออกของ แมดริด ตอนนี้เล่าถึงเมืองนี้ก่อนนะ ตอนหน้ามาว่ากันต่อ  เพื่อนๆคงคุ้นเคยกับเมืองนี้ เพราะ มียอดทีมฟุตบอลและนักฟุตบอล ระดับพระกาฬคือ Leonel Messi ของทีม Barca ออกเสียงว่า บาซ่า นะครับ อย่าได้ งงกับการออกเสียง กับการเขียนอักษรของ ประเทศนี้นะ เขาเป็นมหาอำนาจในยุโรปหลังจักรวรรดิออสเตรียฮังการี รุ่งโรจน์ โขติช่วง เขาเป็นมหาอำนาจก่อนยุคอังกฤษ ฝรั่งเศส รุ่งเรืองนะครับ อย่าทำเล่นไป เพราะฉะนั้นเขาจึงทระนงที่จะใช้ภาษาของเขาเอง ดูว่าเวลาเราจะเสวนาแกจะไม่ค่อยมีคนเสวนากับเรามากนัก เพราะท่านใช้ภาษา สเปนนะซิ เรื่องตลกร้ายอันหนึ่งคือเวลาเราจะไปเที่ยวแถวยุโรป ให้วางแผนล่วงหน้ายาวๆ ไม่ว่าจะจองรถไฟ หรือ โรงแรม ถ้าจองต่ำกว่า หกเดือน อาจจะไม่มีที่นอนนะครับ รถไฟประเทศนี้ ชื่อ Renfe แล้วเราต้องจองผ่าน Website...555 เปิด Web มาเป็นภาษาสเปน Web มันเปลี่ยนภาษา ตรงไหนฟ๊ะ เออดูที่มุมข้างบนคิดว่า มันจะมีให้เปลี่ยนภาษา มองหาคำว่า English และธงอังกฤษ บ่มีครับ เลื่อนไปมา เจอคำยินดีต้อนรับในหลากหลายภาษา แล้วเจอคำว่า Welcome ลองกดดู เวรกรรม มันคือข้อความที่ใช้เปลี่ยนภาษา แต่ เจ้าอย่าหวังว่าลงหน้าไปลึกๆแล้วจะเป็นภาษาอังกฤษอยู่นะ หน้าที่เป็นเหมือนตั๋วเป็นภาษาสเปน แล้วเราต้องใช้ Verb to เดา เพื่อจองตั๋วนะครับ กรอก ชื่อ เลข Passport กรอกเมืองต้นทาง ปลายทาง วันเดินทาง ทีละคนคนครับ เมื่อจอง จ่ายเงินผ่านบัตรเรียบร้อย เราจะต้องพิมพ์ตั๋ว มาเป็น A4 มี Barcode ด้วย อย่าขยันคิดจะพิมพ์ย่อมาใช้งานนะเจ้า เพราะตอนขึ้นรถไฟ เจ้าหน้าที่จะมา Scan ถ้าไม่พิมพ์ A4 ไป ก็ไม่มีให้ Scan คงต้องไปเจรจาตรวจสอบกันวุ่นนะครับ แถมอย่างที่บอก ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ คงเมื่อยมือ น่าดู สำหรับฉากแรกขอเล่ากันแค่นี้ก่อนนะ เอาว่าตอนนี้จบที่เมืองเอกของ แคว้นกาตาลุญญ่า คือเมือง Barcelona!!


Sompong


วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่2

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว....ตอน..."ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่2"....ฉากนี้จะขอนำชม สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญตามเส้นทาง จาก Madrid, Toledo, Bilbao และ Barcelona ในเมือง Madrid ถือว่าเป็นเมืองที่มีประวัติความรุ่งเรืองมายาวนาน จะมีพิพิธภัณฑ์ ที่น่าสนใจ มี โบสถ์ มีตลาดเก่าแก่ สองในสามพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆที่เราไปชมกันมาคือ Museo Thyssen และ Museo Del Prado ที่ Thyssen เขาให้ถ่ายรูปภานในห้องต่างๆ ยกเว้นห้องเดียว จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่ามันเป็นห้องอะไร ที่นี่มีภาพที่สุด เป็นภาพวาดด้านข้างของผู้หญิง ภาพนี้ชื่อ Giovanna degli Albizzi Tornabuoni ชื่อยาวมาก ผทได้ถ่ายภาพมาให้ชมด้วย ส่วนที่ Museo Del Prado ใสเจียด้วย เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ที่นี่มี ประติมากรรมหุ่นของ Goya ตั้งอยู่ในสวนด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ ถ้าใครชอบภาพวาดโบราณ ก็จะรู้จักว่า Goya คือจิตรกรเอกท่านหนึ่งทีเดียว ที่นี่มีเรื่องที่ทำให้ต้องทึ่งคือ มันดันมีภาพ Monalisa ว่ากันว่าภาพนี้วาดขึ้นโดยเหล่าลูกศิษย์ของ Leonardo da Vinci วาดในห้องทำงานของเขานั่นแหละ ตอนแรกผมเห็นก็ งง เฮ้ย ภาพ  Monalisa มันต้องอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ ลูฟว์ ในกรุงปารีสนี่นา....ที่กรุง Madrid มีลานกว้างๆ ชื่อ Plaza Mayor มีคนไปเดินเที่ยว มีร้านขายของร้านอาหาร และมีประติมากรรม รูปปั้นหมี และหลักหมุด จุด ศูนย์กิโลเมตร อันโด่งดัง มีพระราชวังเดิม ที่ชื่อว่า Palacio Real De Madrid มี โบสถ์ที่อยู่ตรงข้ามกับรั้วพระราชวัง ชื่อ Almudena Catreal ประมาณว่า วัดพระแก้ว กับพระบรมมหาราชวังบ้านเรา....เราพักอยู่ที่ Madrid สามคืน แต่วันหนึ่งเราไปเมืองเก่าแก่ ชื่อ Toledo ต้องนั่งรถไฟไปราวๆ สี่สิบห้านาที เมืองนี้อยู่บนเนินเขา ลงที่สถานีรถไฟ ต่อรถบัสไปอีกสอง กม ก็ถึง มีร้านรวงเยอะมากมาย เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว มีโบสถ์ อยู่สองสามแห่ง ถนนหนทางก็จะแคบๆ บ้านเรือนก็จะเป็นแบบโบร่ำโบราณ ผมได้เก็บรูปมาฝาก ให้พอนึกถึงบรรยากาศความเก่าแก่ เออเกือบลืม ที่ สเปน นี่มีปาท่องโก๋ สเปนเขารีดแป้งออกมาจากเครื่องจะเป็นแท่งกลมเป็นหยักๆมะเฟือง เอามาขด เวลาทานก็จิ้มช็อกโกเล็ต อร่อยดี มีร้านหนึ่งมีภาพคนดังจากทั่วโลก มากิน เขาเลยถ่ายรูปติดผนังไว้.....เสียดายวันนั้นเวลาเราไม่พอ เลยไม่ได้ถ่ายรูปติดผนังกะเขาด้วย ( คงรู้นะว่าโม้)
บ่ายของวันที่สี่ เราก็จับรถไฟความเร็วสูง (220-250 กม/ชม) ขึ้นไปเมือง Bilbao ซึ่งอยู่ทางเหนือ สเปนเป็นจักรวรรดิเก่าแก่ เมืองนี้ก็เก่าแก่ แต่เขามี โซนที่เป็นเมืองใหม่ เมืองนี้ เราใช้ Hop On Hop Off คือ รถบัส สองชั้นเปิดหลังคา เขาก็จะมีจุดจอดเป็นจุดๆ เราลงไปเดินชม แล้วค่อยขึ้นคันใหม่ แต่ต้องเช็คให้ดีนะว่า คันสุดท้ายมันวิ่งตอนกี่โมง ไม่งั้นตกรถบัส อาจเจ็บใจที่ต้องจ่ายตังค์ค่าแท็กซี่กลับที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ ของเมืองนี้คือ พิพิธภัณฑ์ Guggenhiem  เป็นตึกที่ออกแบบสมัยใหม่มากๆ ด้านหน้าเป็นลานกว้าง มีประติมากรรม แมว ที่ตกแต่งด้วยไม้ดอก พรึบไปทั้งตัว สูงราวๆ ตึกสองชั้น ตระหง่าน อยู่กลางลาน ก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ เราพักอยู่ที่โรงแรมอยู่ในเขตเมืองเก่า บางช่วงก็ใช้วิธีเดินลัดเลาะ เข้าตรอกซอกซอยชมเมือง ชมพิพิธภัณฑ์ เก่าเล็กๆ ในเขตนี้บ้าง ชมตลาดบ้างก็สนุกสนานดี แป๊บเดียว สามคืน ต้องออกเดินทางไปเมือง Barcelona ตอนแรกเราก็จะใช้รถไฟ Renfe ความเร็วสูงนั่นแหละ แต่มัวงกๆเงิ่นๆ พอจะจองจริงๆ มันเต็ม เลยต้องบิน จำไม่ค่อยได้ น่าจะคนละ สองร้อยกว่ายูโร เมืองนักบอลล์นี่เอาไว้ค่อยมาเล่าต่อ ฉากที่สามนะครับ

























Sompong


วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่3

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว....ตอน..."ตะลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่ 3"....จากฉากที่แล้วที่เรานั่งเครื่องภายในประเทศออกจากเมือง Bilbao มายัง Barcelona เป็นสายการบินภายในประเทศ ก็จองมาจากเมืองไทยตอนจอง รถไฟนั่นแหละ การเดินทางด้วยตัวเอง นอกจากจองตั๋ว รถไฟ เครื่องบิน ล่วงหน้าแล้ว พอตอนถึงวันก่อนจะบินจริงๆ เตือนกันไว้เลยนะว่าต้องเช็ค Email ด้วยเด้อ Flight มันอาจจะเปลี่ยนแปลง เลื่อนเวลา หรือเปล่า เดี๋ยวตก Flight แล้วจะหาว่าไม่เตือน ไม่เชื่อโปรดอย่าลบหลู่นะครับ
เมือง Barcelona เป็นเมืองเก่าติดขายทะเลอยู่ทางตะวันออกของกรุง Madrid เมืองนี้มี เส้นทางแผนผัง ให้เดินลัดเลาะ ชมเมือง ตอนที่เตรียมทริป เราค้นจากอากู๋ ก็ได้แผนที่เส้นทางเดินชมเมือง ค้นอย่างไรนะหรือ ก็ Search หา Barcelona Attractions แต่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวบางจุดที่อาจต้องใช้รถไฟฟ้า บังเอิญเจ้าลูกสาว เขาทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ ประจำกลุ่ม ตั้งแต่ตอนเรียนจบ ป.โท แล้วถูกแกล้งให้เดินทางไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์คนเดียว เลยสามารถช่วยนำทัวร์ฉันท์มิตรของเพื่อนๆพ่อได้เลย...เมืองนี้มีศิลปินท่านหนึ่ง ชื่อAntonio Guadi แกเที่ยวสร้างตึก สร้างโบสถ์ สร้างสาวนสาธารณะ ไว้เยอะแยะ ว่ากันว่าเป็นศิลปะ แบบ อาร์ตนูโว จนเมืองนี้ได้ชื่อว่า City of Guadi ชิ้นงานที่เด่นๆ เช่น สวนสาธารณะ กูเอล Guell Park และมหาวิหาร ซากราด้า ฟามิเลีย Sagrada Familia ออกแบบโดยนาย Guadi  ตั้งแต่ปี 1882 จนถึงทุกวันนี้ยังมีการสร้างเพิ่มเติมอยู่ ใครจะเข้าชมภายในที่นี่ ต้องจองล่วงหน้าผ่าน Website หลายวันด้วยนะคร๊าบ จะเล่นเดินดุ่มๆไปเหมือนโบสถ์ทั่วไปไม่ได้เด้อ ถ้าเดนไปสุดถนน La Ramba ซึ่งเป็นถนนท่องเที่ยว เราจะไปถึงท่าเรือ และเราจะเห็นอนุสาวรีย์ Christopher Columbus ตั้งอยู่บนเสาสูงปรี๊ด เพื่อให้เกียรติ ที่แกเป็นคนแรกที่เดินทางไปยังทวีป อเมริกา....ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมไม่เรียกทวีปโคลัมบัส แต่เรียกว่าทวีปอเมริกา คงไม่ไหวจะเล่าเรื่องมันยาวม๊ากกกก เราอยู่ ที่ Barcelona ได้สองคืน ก็ต้องแยกวงกับ มัคคุเทศก์ จำเป็น เพราะลูกสาวกับลูกเขย เขาต้องกลับไทยไปทำงาน ผมกับเพื่อนอีกคนก็ต้องรับผิดชอบเป็นมัคคุเทศก์ แก่ๆประจำกลุ่ม และแล้วได้เวลาจับรถไฟไปเมือง Valencia.....



























Sompong


วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่4

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว....ตอน..."ตะลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่ 4"....ท่องเมืองอันดับสามของสเปน Valenciaเมืองนี้ชาวประชาบ้านเขาเรียกให้เรา งง ว่า บาเลนเซีย อยู่ ทางใต้ของ Barcelona เมืองนี้มีส่วนที่เป็นเมืองเก่า และมีการขยายเมืองออกไปทางชายทะเล เป็นส่วนที่สร้าง และออกแบบสถาปัตยกรรมสุดล้ำ จนเราไม่แน่ใจว่ามันคืออาคารหรืออะไร สถาปัตยกรรมสุดล้ำนี้ มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก แห่งหนึ่งทีเดียว คือ City of Arts and Sciences อาคารเด่นที่สุดคือ รุปโดมรีคว่ำในสระน้ำ อธิบายยากมาก ไปดูภาพประกอบเอานะ ที่เมืองนี้ เนื่องจากมันกว้างอยู่ เพื่อประหยัดเวลา เราเลยต้องใช้ รถบัสเที่ยวรอบเมือง ที่เป็น สองชั้น ชั้นบนไม่มีหลังคา ที่เรียกว่า Hop On Hop Off เขาจะวิ่งไปตามเส้นทางแล้วมีจอดจอดรถ เราก็จะลงจุดไหนก็ได้ เที่ยวๆๆๆ แล้วค่อยกลับมาขึ้นรถคันต่อไป เราซื้อตั๋วจากเมืองไทยทาง Website จะได้ราคาถูกกว่าที่ซื้อที่ป้ายเขา นิดหน่อย เราตะลุยเมืองเก่า ไปชมพิพิธภัณฑ์ ที่มีของเก่า  บ้านเรือนถนน ตรอกซอกซอยสมัยโบร่ำโบราณ ค่ายคูประตูหอรบ แล้วไปชิมอาหารที่นี่ สิ่งหนึ่งที่ต้องลองคือ ขาหมูเค็ม รู้สึกจะเรียก Iberico Ham เขาจะใช้มีดฝานบางๆ กินกับขนมปัง อาหารสเปน พอทานได้ครับ ไม่เหมือน อาหารตุรกี.....หลังจากตะลุยเมืองเก่า จนแทบหมดแรง เราก็จับรถไปชม ส่วนเมืองที่เป็นสถาปัตย์ สุดล้ำ เห็นครั้งแรก ต้องร้องอุ๊แม่เจ้า มันไม่เหมือนอาคารเลย เราพักที่นี่ สองคืน แล้วต้องออกเดินทางไปเมือง เซบีย่า Sevilla อ่านให้เป็น เซบีย่านะ......แล้วค่อยเจอกันฉากต่อไป







































Sompong


วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่5

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว....ตอน..."ตะลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่ 5"....หลัง พักที่ Valencia ได้สองคืนก็ได้เวลาเคลื่อนย้าย ช่วงบ่ายของวันที่ สาม เราก็ไปจับ รถไฟความเร็วสูง เพื่อต่อไปเมือง Sevilla ที่อยู่ทางใต้.. เอาอีกแล้ว ชื่อไม่ค่อยตรงปกอีกแล้ว คือเขาออกเสียงเรียกเมืองนี้ว่า เซบีย่า...จริงๆแล้วเรา ตั้งใจจะไปชมพระราชวัง แห่งสามอารยธรรม ที่ชื่อ Alhumbra....พระราชวังนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Granada แต่มันไม่มีรถไฟวิ่งตรงจาก Valencia ตรงไปยัง Granada โดยตรง เราเลยต้องไปพักที่เซบีย่า แล้วนั่งรถไฟไปกลับ Granada เพื่อชมพระราชวังแห่งนี้ เป็น Day Tour.....ไปถึงเซบีย่า ก็เล่นเอามืด ผมขอพัก ส่วนเพื่อนๆขอออกไปชมเมือง...อยากบอกต่อนะครับถ้าไปเมืองเก่าในยุโรป เขาจะเปิดไฟส่องตามอาคารเก่าๆ ใครเป็นตากล้องต้องไปชมกันหน่อย แต่นั่นแหละถ้าไปเดินท่อมๆแบกกล้องไป ก็ระวังเรื่องความปลอดภัยหน่อยนะครับ บางประเทศอาจจะมีคนมาขอกล้องเราเอาดื้อๆ ดีไม่ดี ขอกระเป๋าเงินเราด้วย
เช้าวันต่อมาเราก็จับรถไฟไป Granada ที่เราจองตั๋วมาตั้งแต่เมืองไทย บางประเทศซื้อตั๋วแบบ Tourist Pass แล้วก็สำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้า ถ้าเราเดินทางเยอะๆก็คุ้มนะ แต่คราวนี้รู้สึกจะไม่มี Pass เราจองตั๋ว แบบที่บอก ในฉากแรก คือผ่านWeb Renfe...อาจจะขอเปลี่ยนภาษาจาก สเปนเป็นอังกฤษ แต่พอลงลึกๆถึงหน้าตั๋ว มันไม่มีภาษาอังกฤษ ...ตั๋วมันมีให้เลือกประเภทของผู้โดยสาร รู้สึกมีส่วนลดให้พวกอายุน้อยๆอย่างกลุ่มเรา.....อุ๊ต๊ะ บนหน้าตั๋วคราวนี้มีหมายเหตุยาวพรืด อ่านออกอยู่คำเดียวคือ Bus ที่เหลือ สเปนล้วน เอาเถอะไม่มีทางเลือกมากจองกันมา..เพราะเรื่องมันต้องจองแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่น.. อีกเรื่องคือ พระราชวัง Alhambra เขาบังคับใช้มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ตอนแรกคุณเธอบอกว่า เธอว่างรอบบ่ายสองโมง เสียวมากเพราะรถไฟเที่ยวกลับ มันหมิ่นเหม่มาก ผมต้อง Email คุยกับเธอ จนเธอเปลี่ยนมาให้เป็นสิบโมงเช้า....ตอนเดินทาง จู่ๆรถไฟมันก็หยุดที่สถานีหนึ่ง ชาวบ้านเขาลงกันเกือบหมดตู้ เราก็นั่งคุยกันเพราะมันยังไม่ถึงปลายทาง สักครู่การ์ดก็เดินผ่านมา แล้วชี้ไปที่ประตูให้เราลง พูดอะไรไม่รู้ แต่มีคำว่า Bus....คราวนี้เข้าใจแล้วว่าหมายเหตุบนตั๋วคือเราต้องไปต่อรถบัสนั่นเอง....เรานั่งรถบัสไปอีกพักใหญ่ เขาไปส่งที่สถานีรถไฟ...เรื่องที่มันต้องให้ต่อรถบัสคือเขากำลังปรับปรุงราง เราไปเจอมัคคุเทศก์ ตามนัด คราวนี้ได้ไปชมพระราชวัง ที่ทีทั้ง อารยธรรมโรมัน ที่เริ่มสร้างเป็นปราการหอรบ ต่อมามีผู้ครองเมืองนับถือคริสต์ศาสนา เข้ามาปกครอง จนสุดท้ายเมืองนี้ถูกโจมตีและยึดโดยแขกมัวร์ พระราชวังนี้ก็ถูกยึดไป และมีการก่อสร้างเพิ่มเติม ตามอารยธรรมอิสลาม เราได้ชมพระราชวังประมาณ สองชั่วโมงเศษ จากนั้นก็ไปหาข้าวเที่ยงในเมือง Granada ได้เดินชมเมือง ชมตลาด เมืองนี้ ได้ มีส่วนที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ไม่ใช้แค่พระราชวัง แม้แต่ตลาด โบสถ์ ก็มีการขึ้นมรดกโลก เขาแยกกันขึ้นทะเบียนหลายใบเลย.....นั่นนะซิว่าทำไมสมาชิกทัวร์กลุ่มนี้ถึง เรียกร้องว่าต้องไปชมที่นี่ให้ได้ เลยจัดไป ไม่ให้ขัดใจ....ตอนนั้นดูเหมือนพละกำลังเหลือล้น เปลี่ยนที่นอน แทบทุกๆสองคืน....ยัง งง อยู่ว่าทำไปได้ไง!!!



































คือโพสต์ ทริปสเปน ฉากที่ 5 ผมมีภาพมากกว่าที่ส่งไปให้ชม กำลังลังเลว่าถ้าส่งมันจะมากไปไหม....เพราะที่ส่งให้ชม ได้ชมแค่ ส่วนของพระราชวัง Alhumbra ส่วนที่เป็นอารยธรรมอิสลาม  ยังขาดส่วนที่เป็น อารยธรรมโรมัน และคริสต์ และพระราชวังนี้มีสวนด้วยครับชื่อว่า สวน Generalife คิดไปคิดมาเลยคิดว่าส่งให้ชมดีกว่านะครับ









































Sompong


วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่6

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว....ตอน..."ตะลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่ 6"....หลังจากนั่งรถไฟกลับมาจาก Granada มาถึง เซบีย่า (Seville) ก็เย็นมากแล้ว หาอะไรในห้องอาหารของที่พักกินกันนิดหน่อยก่อนแยกย้ายกันกลับห้อง....ในต่างประเทศ ผมเห็นหลายแห่ง มีห้องพักแบบ Hostel เป็นที่พักขนาดเล็ก มีทั้งห้องนอนแยก ห้องน้ำรวม หรือ บางแห่งเป็นห้องนอนรวม แล้วก็มีห้องอาหาร ช่วงเช้าก็มีอาหารให้เลือกเยอะ อาหารแบบทานง่ายๆเหมือนเราอยู่บ้าน แล้วมีอาหาร กาแฟ ผลไม้ เล็กๆน้อยไว้บริการแขกทั้งวัน ที่พักแบบนี้ ราคาก็จะย่อมเยา หน่อย.....วันรุ่งขึ้นได้เวลาชมเมือง แม้ว่าที่เรามาเมืองนี้ เพราะต้องการไปดูพระราชวัง Alhumbra แต่ไหนๆมาแล้ว ก็ชมเมืองเขาเสียหน่อย เดี๋ยวเขาจะเสียใจ หาว่าเราเห็นเขาเป็นทางผ่าน เมืองนี้ก็เช่นกัน ผมได้จอง Hop Bus มาจากกรุงเทพฯ แต่เช้านี้ดันมามีฝน หนักบ้างเบาบ้าง เราต้องเดินจากที่พัก ลัดเลาะไปขึ้นรถแถวตลาด เหมือนเคยครับ ที่พักเราอยู่ในแถบเมืองเก่า  ผู้จองที่พักที่พักที่สุดยอดของเราคือ คุณจี๊ด ภรรยาคุณอั๋น หน้าที่นี้ต้องเธอแหละ ช่วงระหว่างทางที่จะไปขึ้นรถ เราผ่านสถาปัตยกรรมแปลกๆ เหมือนรูปรังผึ้งอยู่กลางตลาด ตอนนั้นฝนกำลังตกก็ได้แต่หลบฝนแหงนดู มันแปลกดี....วันนี้ฝนตก หนักบ้าง เบาบ้าง เราได้แต่นั่งอยู่บนรถ วนรอบเมืองซะสองเที่ยวเลย ก็เห็นโบสถ์ วิหาร สถาปัตยกรรมแบบโบราณ ซึ่งเราเริ่มไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่แล้ว สุดท้ายก็มาจอดป้ายเดิม วันนี้เราต้องจับรถไฟกลับแมดริด เที่ยวหัวค่ำ....กลุ่มเพื่อนเขาขอแยกตัวไปละลายทรัพย์ในช๊อปปิ้ง มอลล์กลางตลาด ผมกับภรรยาขอกลับที่พัก ช่วงที่เดินผ่านเจ้าอาคารรังผึ้ง ฝนหยุดตกทันใด เหมือนบอกผมว่าช้าก่อน มาเยี่ยมกันก่อน ไม่งั้นจะใสเจียนะ อาคารประหลาดรูปรังผึ้งนี้ชื่อ Metropol Parasol พอเข้าใบมันมีลิฟต์ขึ้นไปข้างบน แต่ต้องซื้อตั๋วผ่านเข้าชมนะ...ฝนหยุดตกพอดี ได้โอกาสเลย ขอไปชมกันหน่อย ข้างบน มีท้างเดินลดเลี้ยวไปมาให้มองชมเมืองจากมุมสูง....ถ้าไม่ขึ้นมาก็น่าเสียดาย เพราะเมื่อกลับมาเมืองไทย ผมเห็นอาคารนี้ถูกนำไปเป็นวิดีโอ ในการทำตัวอย่างโชว์โฆษณาขายทีวีบางยี่ห้อ.....
หลังชมอยู่พักใหญ่ ฝนมาเปาะแปะ เราเลยลงจากอาคาร พากันเดินกลับที่พัก....คุณภรรยา ขอไปอาบน้ำ เก็บข้าวของ ผมยังพอมีเวลา เลยไปถามพนักงานต้อนรับว่า ที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง เขาบอกว่าไปเดินชมเมืองเก่ามาหรือยัง มันห่างไปไม่มาก ผมรีบหยิบกระเป๋ากล้องแบกขึ้นหลังเดินจ้ำอ้าว ได้โอกาสฉายเดี๋ยวแล้วเรา หลังจากเดินลัดเลี้ยวไม่นานก็ถึงใจกลางเมืองเก่า ฝนตกพรำๆ ได้เห็นวิถีชีวิต มีรถม้าบริการ แต่ตรงหน้าพิพิธภัณฑ์ คงไม่ใช่วันของเรา เพราะคนรอคิวยาวออกมาเลย ผมรีบ กดชัตเตอร์ แบบตากล้องเสียอาการ ได้รูปมาพอสมควร ก่อนจ้ำอ้าวกลับที่พัก อาบน้ำ อาบท่า ก็ได้เวลาเช็คเอ้าท์ จับแท็กซี่ไปสถานีรถไฟ และแล้วก็ถึงเวลาบอกลา เซบีย่า ไปหาสาวแมดริดแล้ว!!!!























Sompong


วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว ตลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่7

วัยเก๋าเล่าเรื่องเที่ยว....ตอน..."ตะลุยเมืองกระทิงดุ ฉากที่ 7"....หลังออกจากเซบีย่า มาด้วยรถไฟความเร็วสูง กลับมายังแมดริด รถขบวนนี้วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 220-260 กม/ชม มาถึงแมดริดก็ดึกโข เราก็พักโรงแรมเดิมที่เราพักตอนมาถึงแมดริดในวันแรก ถึงโรงแรมก็แยกย้ายกันพักผ่อน....เช้าวันรุ่งขึ้น เราต้องเอาใจขาช๊อปเขาหน่อย เมืองใหญ่ๆหลายๆเมืองเขาจะมี ศูนย์จำหน่ายสินค้า Outlet ขายสินค้า Brand Name  แมดริดก็เช่นกัน มี Outlet ชื่อ Las Rozas Village อยู่ใกล้ๆแมดริด เราต้องนั่งรถบัสไป สถานีรถบัสอยู่แถวๆ พระราชวัง Palacio Real De Madrid เราเคยไปชมที่นี่แล้วในวันแรกๆที่มาถึงสเปน...ก่อนเดินทางไปละลายทรัพย์ต้องเติมพลังกันหน่อย แถวถนนหน้าวังมีร้านอาหารเช้าพอดี หาอะไรกินกันแล้วค่อยไปหาสถานีรถบัส....ตอนไปหาสถานีรถบัส ประมาณสถานีขนส่งบ้านเรา เช็คในอากู๋มันดันพาเราไปที่สวนหน้าวัง ผมกำลังคิดว่า เอาแล้ว อากู๋ เล่นซะแล้ว เวลาก็ใกล้เข้ามา บังเอิญเหลือไปเห็นเหมือนบันไดเวียนลงห้องน้ำ สถานีรถบัสก็หาไม่เจอ ดันมาปวดฉี่อะไรเอาตอนนี้ว่ะนี่ ไม่ไหว ไปฉี่ก่อนนะลูกทัวร์ พอลงไปอ้าวเฮ้ย สถานีรถบัส มันอยู่ใต้ดินตรงนี้เอง.....5555 สรุปเจอสถานี หลังตรวจห้องน้ำก็ได้จับรถบัส ไป Outlet ได้ละลายทรัพย์กันไปตามอัธยาศัย จนบ่ายแก่ๆก็กลับมาแมดริด หาร้านทานเย็นกันก่อนเข้าโรงแรม....
วันรุ่งขึ้นเราตั้งใจจะไปเก็บตกโบสถ์ หน้าวังที่ชื่อ Almudena Catreal โบสถ์นี้อยู่นอกรั้ววัง ในช่วงเดินเล่นรอเวลาก่อนโบสถ์เปิด สาวๆเขาแอบชวนกันไปจับก้นหนุ่มสเปน ไอ้หมอนี่มันก็ยอมให้จับโดยดีไม่โวยวายเลย....คงโดนจับมาเยอะ จนหุ่นที่รมดำไว้ แต่ส่วนก้นถลอกปอกเปิกจนเห็นทองเหลืองเลย....วันนี้หลังจากชมโบสถ์นี้เสร็จ เราวางแผนว่าจะย้ายไปนอนโรงแรมใกล้ๆสนามบิน ได้เวลาบ่ายแก่ๆเรากลับไปเอากระเป๋าเดินทางที่ฝากโรงแรมไว้ แล้วจับแท็กซีไปโรงแรมใกล้สนามบิน.....คุยมา 7 ฉาก  จบแล้วหรือ????ยังครับ ยังมีเรื่องตื่นเต้น ช่วงเราไปถึงโรงแรม เราก็ยืนออกันที่หน้าเคาว์เตอร์เช็คอิน มีกลุ่มคนท้องถิ่น ชายหญิง สี่คนมาทำทีเหมือนรอเช็คอินหลังเรา แล้วเราพบว่าเพื่อนเราคนที่ยืนหลังสุดเอ๊ะทำไม เสื้อผ้าด้านหลังเขาเปื้อนซ๊อสมะเขือเทศ  ตอนแรกเราก็ งงๆ แต่ไอ้กลุ่มคนข้างหลังพยายามชี้ให้เพื่อนเรา เข้าห้องน้ำไปล้าง พอดีผมเหลือบไปเห็นที่พื้น เห็นรอยซ๊อสหกเป็นทาง วิญญาณ เชอร์ล็อกโฮล์มบอกเราว่า ไปพวกที่เดินตามเรามาคือมิจฉาชีพ คงกะให้เราแบ่งกันไปห้องน้ำ แล้วคงกะขโมยของเรา.....พอดีเราเช็คอินเสร็จ ตัดสินใจขึ้นลิฟต์ ไปทำความสะอาดที่ห้องเลยดีกว่า
เช้าวันต่อมา ได้เวลา ลาแมดริดจริงๆเสียที เดินทางไปสนามบิน เช็คอินเสร็จ ก็ไปหาอะไรทานในเลาจ์น ก่อนออกเดินทางกลับบ้าน ทริปนี้เราใช้สายการบิน Etihad ต้องไปต่อเครื่องที่เมือง อาบูดาบี และแล้วเราก็ถึงกรุงเทพฯกันโดยสวัสดิภาพทุกคน..... รอเจอกันใหม่ทริปหน้านะครับ