13 พย. 2557 Nagasaki, สะพานแว่นตา, Hypocenter of the Atomic Bomb Explosion, Nagasaki Atomic Bomb Museum, Peace Park, Mount Inasaถึงสนามบิน Fukuoka นั่งรถใต้ดินไป Hakata ไปเปลี่ยนตั๋ว JR Pass Northern Area Kyushu แบบ 5 วัน ตัวจริง
ที่ Ticket Office ก่อนเลย ราคาตั๋ว 9,260 เยน เราซื้อจากเมืองไทยก็สะดวกดี จ่ายเป็นเงินไทย 2,870 บาท
อันนี้ครับ JR Pass Northern Area Kyushu แบบ 5 วัน ใช้เป็นบัตรเบ่ง เข้า-ออก JR ได้ตลอด 5 วัน
ก็เริ่มต้นใช้งานเลย เดินทางไป Nagasaki รถออกจาก Hakata 10:15 ถึง Nagasaki 12:21 ตามเวลา ตรงแป๊ะเลย
ถึง นางาซากิ เข้าที่พัก
Akari Hostel ตามแผนที่
ดูตามแผนที่ง่ายมาก แต่ความจริงเล่นเอาเหนื่อยที่เดียว
โชคดีมาก มีคนญี่ปุ่นใจดี พาพวกเราทั้ง 6 ขึ้นรถราง ไปส่งจนถึงที่พักเลย น่าประทับใจมาก
การจะไปขึ้นรถราง ต้องยกลากกระเป๋นขึ้นทางข้าม ที่ไม่มีบันไดเลื่อน แล้วก็ยกลากลงไปที่สถานีรถราง
ทำให้รู้สึกว่า ขากลับควรจะต้องขึ้น TAXI น่าจะดีกว่า ถึงแล้วครับ
Akari Hostelหลังจากจ่ายค่าที่พัก ล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็ออกมาหาอาหารเที่ยงรับประทานกัน
แล้วก็ได้เวลาเดินเที่ยวกัน
เป๋าหมายแรกก็ สะพานแว่นตาแห่งนางาซากิ มีชื่อเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Meganabashi 眼鏡橋 (เมงาเนะบาชิ)
หาหินรูปหัวใจเจอด้วย
เจออีกก้อนนึงแล้ว...อยู่นั้น อยู่นั้น
และอีกหนึ่งความเชื่อ หากใครสามารถโยนเหรียญจากด้านบนของสะพานลงไปแล้วเหรียญไม่ตกลงไปในน้ำ คำขอพรจะเป็นจริง
ขึ้นรถรางต่อไปเที่ยว Hypocenter of the Atomic Bomb Explosion, Nagasaki Atomic Bomb Museum, Peace Park
มีบันไดเลื่อนก็ไม่บอก ให้เดินขึ้นกัน หอบบานเลย
ใกล้ค่ำแล้วไปขึ้นเขาชมวิวยามค่ำคืน Mount Inasa 稲佐山 วิธีการไปขึ้น Ropeway ก็ลำบากพอควร ไม่มีข้อมูลมากนัก
รู้แต่ว่าให้ลงรถรางที่สถานี Takara-Machi แล้วเดินไปขึ้น Ropeway แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
พอดีโชคเข้าช้างให้เราได้เที่ยว ไปถามคนญี่ปุ่นใจดี (อีกแล้ว) บอกเดินไม่ถึงหรอก พาข้ามถนนไปเรียก TAXI
บอก TAXI ให้ไปส่งที่ขึ้น Ropeway เรียบร้อยเลย ค่า TAXI 760 เยน ต้องใช้ 2 คัน ค่าขึ้น Ropeway คนละ 600 เยน ได้ลดพิเศษจากโรงแรม
วันนี้ได้ความประทับใจจากชาวญี่ปุ่น 2 ครั้งเลย มีน้ำใจให้ความช่วยเหลือดีมาก... เชฺิญชมวิวยามค่ำคืนตามสบายครับ
ขากลับก็นั่ง TAXI จาก Ropeway ไปโรงแรมเลย ก็มีปัญหาอีก พูดให้ไปส่งที่โรงแรมไม่ได้ TAXI ไม่รู้จัก
พอดีนึกได้ว่าโรงแรมอยู่ใกล้ สะพานแว่นตา เลยเอา กำหนดการท่องเที่ยว ฟุกุโอกะ ที่พิมพ์มาอย่างดีให้ TAXI ดูถึงไปส่งถูก
มันต้องมีภาษาญี่ปุ่นด้วยดังนี้ สะพานแว่นตา 眼鏡橋 ค่า TAXI ถึงโรงแรมก็คันละ 1,110 เยนเอง
การวางแผนเที่ยวใน Nagasaki โดยรถราง (Streetcar) น่าจะลอง Download (http://itamusing.com/travel/images/Fukuoka/Streetcar route.pdf) แผนที่ไปดู
15 พย. 2557 Oura Cathedral, Glover Garden, เดินทางสู่ Kumamotoวันนี้ช่วงเช้ายังคงเที่ยวที่ Nagasaki อีก หลังอาหารกลางวันจะพาไปขึ้นรถไฟ Shinkansen เดินทางไป Kumamoto
รถออกจาก JR Nagasaki station เวลา 14:20 เห็นควรว่าจะเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่สถานีก่อน มีตู้ฝากแบบหยอดเหรียญ
แล้วก็ทำตามแผน ขนกระเป๋าขึ้น TAXI ไปส่งที่สถานี แล้วนั้งรถรางเที่ยวกัน
ออกจากสถานีรถไฟ ขึ้นรถรางสายสีน้ำเงินสายที่ 1 จากสถานี Nagasaki eki mae (27) ไปเปลี่ยนรถเป็นสายสีเขียวสายที่ 5
ที่สถานี Tsuki-Machi (31) ไปลงที่สถานี Ouratenshudo-Shita (50) ดูรายละเอียดวิธีเปลี่ยนรถได้ในแผนที่ Streetcar
เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ มีร้านขายของริม 2 ข้างทาง
ร้านนี้หน้าตาเหมือนร้านขายกล้องที่พันทิปเลย
เห็นโบสถ์โออุระแล้ว เป็นโบสถ์คาทอลิก โบสถ์นี้มีความสำคัญเพราะว่าในสมัยก่อนที่คริสต์ศาสนา
เข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น แล้วมีคณะนักบวชและชาวคริสต์ญี่ปุ่นโดนแขวนคอจำนวน 26 คน
ภายหลังเลยสร้างโบสถ์นี้เพื่อเป็นอนุสรณ์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค
ค่าเข้าชมคนละ 300 เยน ห้ามถ่ายรูปภายในโบสถ์
สงสัยเหรัญญิกหาเงินไม่เจอ
เจอแล้ว จ่ายเงินได้
ออกจากโบสถ์ มาถ่ายรูปรวมกันก่อน
ไปต่อ Glover Garden เห็นบอกว่ามีบันไดเลื่อนขึ้น สวนโกลฟเวอร์
ไหนว่ามีบันไดเลื่อน เดินขึ้นมาตั้งเยอะแล้ว ไม่เห็นมี
นี่ไง...เจอแล้ว
ถึงที่จ่ายเงิน คนละ 610 เยน
แล้วก็ยังต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปอีก ไม่มีใครบ่นแล้ว
ถึงแล้วครับ วิวอ่าวนางาซากิ
บ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟหน้าบ้าน
ตัวบ้านที่ขึ้นไปชมเมื่อกี้นี้ไง
แล้วก็ถึงเวลาอันควร หาอาหารกลางวันกิน มีข้าวแกงกะหรี่ ซาลาเปาไส้หมูสามชั้น และไอศครีม อร่อยมาก
ขาลงเดินลงอีกทาง ผ่านที่เที่ยวต่างๆอีก
เดินลงผ่านร้านค้าที่เราเดินขึ้นมา คุณสมพงษ์บอกให้ถ่ายรูปนกตัวเล็ก มากินน้ำหวาน
ถ้าไม่ใช้นกตัวเล็ก มันก็คงเป็นผึ่งตัวใหญ่ที่เดียว
ออกเดินทางจาก นางาซากิ เวลา 14:20 ไปเปลี่ยนรถที่ Shin-Tosu แล้วนั่ง Shinkansen ไปคุมาโมโตะ
ได้ทำการ Reserve Seat ไว้แล้ว เปลี่ยนรถ ต่อรถกันให้ถูกละกัน ถึงคุมาโมโตะ เวลา 16:34
เข้าพักที่
Dormy Inn Kumamoto แล้วออกมาเดินเที่ยว หาอะไรกินแถวสถานีรถราง ใกล้โรงแรมที่พัก
เห็นหลังคาโค้งๆนี่ไม่ผิดหวัง เป็นที่ช๊อปปิ้งแน่ๆ ช๊อปสักพักแล้วกลับไปนอน ดึกมา 2 คืนแล้ว
16 พย. 2557 ภูเขาไฟ ASO, นั่งรถไฟสาย ASO-BOY, Suizenji Parkวันนี้จะไปเที่ยวภูเขาไฟ อะโซะ ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (Ropeway) ไปถึงปากปล่องภูเขาไฟได้
เนื่องจากภูเขาไฟพ่นเศษหินออกมา
การเดินทางไปชมปากปล่องภูเขาไฟ ปรกติเมื่อมาถึงสถานี JR ASO แล้วออกมาหน้าสถานี ทางขวาจะเห็น Bus Station
ราคาจะแยกเป็นค่ารถบัส กับค่ากระเช้าไฟฟ้า ถ้าซื้อตั๋วรวมทั้ง 2 อย่าง อาจถูกลง ขึ้นรถบัสบริเวณหน้าสถานีไปลงป้ายสุดท้าย
(Aso-san Nishi) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วต่อ กระเช้าไฟฟ้า อีกประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้ว ปล่องภูเขาไฟ (Nakadake)
แต่ตอนที่ไป รถบัสยังคงวิ่งได้ปรกติ แต่ไม่สามารถขึ้น Ropeway ได้ จึงขึ้นรถบัสแค่ป้ายก่อนถึงยอดเขาที่ป้าย Kusasenri
เป็นจุดพักชมวิว สามารถมองเห็นปากปล่องภูเขาไฟ ทุ่งหญ้า บึงน้ำ ขี่ม้า ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโซะ
(Aso Vacano Museum) มีร้านอาหารและขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน
ภูเขาไฟ อะโซะ เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท
มีม้าให้ขี่ด้วย แต่มีคนจุงนะ ไม่ได้ปล่อยอิสระ
นี่เดินใกล้ปากปล่องเลย
เดินเที่ยวกันพอสมควรแล้วก็นั่งรถกลับ ที่ป้ายฝั่งตรงข้ามกับขามา มีเวลาบอกไว้เสร็จเมื่อไหร่รถมา วิวข้างทางระหว่างรถลงเขา
หน้าสถานี JR ASO
ออกจากสถานีมี Bus Station อยู่ทางขวา
ลองดูตรางเวลาและราคาได้ ช่วงนี้ไม่มี Ropeway เลยไม่มีราคารวมอยู่ด้วย
ร้านอาหารในสถานี ดูน่ากินมาก เวลาสั่งก็ชี้ๆเอา เขาบอกว่าใช้เวลา 20 นาที ก็ OK เรามีเวลา แล้วก็อร่อยมากด้วย
เมื่อรู้ว่าขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟไม่ได้เลยจองกลับเร็วหน่อย รถออกจากสถานี ASO เลา 12:27 ถึง Kumamoto 13:41
ขบวนนี้เป็นรถไฟขบวนพิเศษขบวนหนึ่งชื่อ ASO BOY มีวิ่งแค่ เสาร์-อาทิตย์ และต้อง Reserve Seat ไว้ก่อน
ไม่มีที่สำหรับ Non Reserve Seat
มีขนม กาแฟจำหน่าย
มีส่วนที่จัดไว้ให้เด็กเล่น
บางตู้ก็จัดเป็นที่นั่งเด็กไปกับผู้ปกครอง
แล้วมีบริการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย
กลับมาถึง Kumamoto แล้ว ถ่ายกันหน้าหัวรถจักร์หน่อย
จาก JR Kumamoto ขึ้นรถรางไปเที่ยวสวน Suizenji กัน
นั้งรถรางไปลงที่สถานี Suizenji Koen เดินย้อนมาทางไฟแดงแล้วเลี้ยวขวา เดินตรงไปจนสุด มองทางขวาจะเห็นทางเข้า
เดินเข้าไปเลย มีพี่หมีเฝ้าอยู่ (อย่าย้ายพี่หมีไปไหนนะ เดี๋ยวไปไม่ถูก...)
มีของขายสองข้างทาง แวะกินกาแฟ ชาเขียว มัทฉะ ขนม กันพอสังเขป
ก่อนเข้าก็ต้องซื้อตั๋วก่อน ค่าเข้าชมคนละ 400 เยน
เข้ามาปุ๊ ก็สวยปั๊บ (ในรูปไม่มีคนเลย)
มีทำเป็นภูเขาไฟฟูจิจำลอง
หญ้าคงตัดบ่อยนะ ไม่รู้ตัดตอนไหน ก็เปิดทุกวัน
ปลาคาร์ฟขึ้นมากินกันบนหินเลย
ที่นี่ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเหมือนกัน อาจจะเพิ่งเริ่ม ยังเปลี่ยนไม่มาก
นี่ก็ศาลาชงชาริมสระ มีบริกรหน้าดุๆคอยดูแลอยู่
หมดไปอีกวัน หาอะไรกินก่อนกลับไปนอน ที่เดิม
Dormy Inn Kumamoto อีกคืน
สรุป ค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว Fukuoka 13-22 พย. 2557ค่าใช้จ่ายที่จ่ายก่อนเดินทางเป็นเงินบาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน การบินไทย | 16,500.00 บาท |
ค่า JR Pass Norhern Area Kyushu แบบ 5 วัน | 2,870 บาท |
ค่าประกันการเดินทาง | 380.00 บาท |
ค่า Pocket WiFi 10 วัน เฉลี่ยคนละ | 400.00 บาท |
|
รวมที่จ่ายกันไปแล้ว เป็นเงินบาท | 20,150 บาท |
ค่าใช้จ่ายที่ Fukuoka เป็นเงินเยนค่าโรงแรม
Akari Hostel นางาซากิ 2 คืน | 6,600 เยน |
Dormy Inn Kumamoto 2 คืน | 9,050 เยน |
Toyoko Inn Oita Ekimae 1 คืน | 4,158 เยน |
APA Hotel Fukuoka Watanabe Dori 4 คืน | 31,400 เยน |
|
รวมค่าโรงแรม | 51,208 เยน |
ค่าใช้จ่ายรวมที่เก็บเข้ากองกลาง
ค่าใช้จ่ายที่เก็บเข้ากองกลาง | 50,000 เยน |
หักค่า Akari Hostel ที่คิดไปแล้ว | 6,600 เยน |
เหรัญญิกคืนเงินคนละ | 900 เยน |
|
รวมค่าใช้จ่ายของกองกลางคนละ | 42,500 เยน |
|
รวมรายจ่าย เป็นเงินเยน | 93,708 เยน |
รวมรายจ่าย แปลงเป็นเงินบาท | 28,112.40 บาท |
|
|
|
รวมค่าใข้จ่ายทั้งหมดเป็นเงิน | 48,262.40 บาท |
หมายเหตุ ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน เท่ากับ 30 บาท