วันที่3 ไปเที่ยววัดก่อนแต่เช้าเลย วัดพระสิงห์ (เรื่องจริงคือ GPS พาหลงมาความจริงคือจะไปตลาด วโรรส)
ไปดูทำร่มและอื่นๆที่บ่อสร้าง กำลังจะมีงาน เทศกาลร่มบ่อสร้างสันกำแพง
กำลังประดับร่มกันตลอดถนน นี่ก็เป็นร่มเล็กๆ ที่กำลังจะติดตั้ง
แล้วร่มเล็กๆก็จะขึ้นมาประดับอยู่บนนี้
กระเป๋ากล้องผมครับ ค่าฝีมือร้อยเดียว ถ้ามือถือก็ 50 บาท เสื้อก็เพ้นท์ได้ 150 บาท คิดราคาตามขนาด
สวยเชียว แป๊ปเดียวเสร็จ ช่างบอกว่าสีติดทน ซักล้างได้ สีไม่หลุด
อันนี้วาดร่ม ที่จริงไม่ต้องบอกก็ดูรู้นะ
ต่อไปก็เที่ยวน้ำพุร้อนสันกำแพง
แช่ขากับน้ำร้อนตามทางน้ำ ฟรีครับ มีระดับความร้อนต่างกันด้วย ตรงนี้จะร้อนมากอยู่
ส่วนไข่นี่เสียเงินครับ จากการทดลอง 15 นาทีแล้วยังไม่สุกดี คงต้องนานกว่านี้ หรือเลื่อนไปจุดที่อุณหภูิสูงๆ
เข้าเขตแม่กำปองแล้วครับ เราจะพักที่แม่กำปอง 2 คืน เจ้าของบ้านให้แวะสักการะที่วัดแม่กำปองก่อน
แล้วนี่คืออะไร ใครตอบได้บ้าง
เป็นอุโบสถกลางน้ำนี่เอง ไม่มีเวลาลงไปสำรวจ อยากเข้าที่พักก่อน
ถึงที่พักแล้ว ออกไปเที่ยวเลย เดินป่าไปเที่ยวน้ำตกแม่กำปอง
ระหว่างทางเดินก็มีธารน้ำไปเรื่อยๆ
ถึงแล้วน้ำตกแม่กำปอง
ขากลับที่พัก เดินกลับทางถนนครับ ระหว่างทางแวะกินกาแฟที่ร้าน ชมนก ชมไม้ เป็นจุดชมวิวมองลงไปเห็นหมู่บ้านที่พัก
ผ่านต้นนางพญาเสือโคร่ง เก็บภาพใกล้ๆมาฝาก
ก่อนถึงที่พักมีนกยูงมารำแพนโชว์ด้วย
วันที่5 ลาแม่กำปอง กลับ กทม.
จากปากคำของ แม่หลวง เจ้าของร้าน กำปอง คอฟฟี่ เล่าที่มาของชื่อ แม่กำปอง ว่า
แม่ มาจากแม่น้ำ ส่วนกำปองเป็นดอกไม้ เคยเห็นดอกกำปองไหมครับ ... นี่ไง ดอกกำปอง
จำร้านชมนก ชมไม้ ที่ไปดื่มกาแฟ+โกโก้ แล้วถ่ายรูปหมู่บ้านกันได้ไหม นี่ก็ร้านที่เห็นอยู่สูงสุดนั่นแหละ
ก่อนเครื่องออกก็ยังมีเวลา แวะไปเที่ยวบ้านถวายอีกที่นึงก่อนกลับ
หน้าป้ายบ้านถวายก็มีรีสอร์ทแห่งนึง ดูสวยดี เวียงจินตรา
ข้างในก็มี นางแบบ นายแบบ มาถ่ายรูปตามจุดถ่ายรูปที่จัดไว้
แล้วก็มีร้านให้ช้อปปิ้งเพิ่มความสนุกสนานในการท่องเที่ยว
นั่นไง ได้แล้ว อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างนะครับ
แค่นี้ละกันครับ เดี๋ยวก็ไปหาอาหารกลางวันกิน แล้วขึ้นเครื่องกลับ กทม. ครับ ... สวัสดี ...
ปล ที่สนามบินมีร้านอาหารอร่อย แก้วปลาสด อาหารอร่อย ใช้เป็นที่รอเวลาได้
ที่ได้รู้จักก็เพราะ พี่ปุ๊แนะนำ